เหตุรถพ่วงบรรทุกน้ำมัน 4.5 หมื่นลิตร ที่ชนท้ายสิบล้อบรรทุกจักรยาน ขณะรอไฟแดงสี่แยกกลาง อ.หนองกี่ บุรีรัมย์ น้ำมันทะลักท่วมถนนไหลลงท่อระบายน้ำ ไฟลุกพรึบตามท่อรัศมี 400 เมตรกลายเป็นทะเลเพลิง ความเสียหายล่าสุดเป็นเหมือนลายแทง บ้านเรือนและทรัพย์สินอยู่ตรงท่อระบายน้ำได้รับความเสียหายทั้งหมด คาดเสียหายไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ด้านคนขับรถน้ำมันยืนยันไม่ได้หลับไน แต่รถลื่นเพราะฝนตก
วันที่ 29 ต.ค. กรณีรถเทรนเลอร์หัวลากยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียนตัวแม่ 60-7409 ตัวลูก 77-6783 กรุงเทพฯ บรรทุกน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ ซึ่งบรรทุกน้ำมันมาจาก จ.ระยอง จำนวน 45,000 ลิตร เพื่อจะเอาไปส่งที่คลังน้ำมันที่ จ.ศรีสะเกษ ไปชนท้ายสิบล้อบรรทุกจักรยาน ทะเบียนตัวแม่ 70-1808 ตัวลูกทะเบียน 70-1809 สุรินทร์ ที่จอดรอไฟแดง บริเวณสี่แยกกลางตัว อ.หนองกี่ ส่งผลให้น้ำมันไหลออกจากถังน้ำมัน ลงพื้นถนนไหลลงท่อระบายน้ำ แล้วเกิดประกายไฟลุกไหม้รถทั้งสองคัน และไฟได้ลุกไหม้ตามท่อระบายน้ำรอบตลาดสดเทศบาลหนองกี่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.45 น.ของคืนที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบความเสียหายล่าสุด พบว่ามีอาคารพาณิชย์ ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ไหม้เสียหายทั้งหมดจำนวน 5 คูหา และมีอาคารพาณิชย์ ที่ได้รับความเสียหายด้านหน้าบางส่วนอีกกว่า 10 คูหา
นอกจากนี้ยังรถรถเก๋ง รถสามล้อเครื่อง รถจักรยานยนต์ ที่จอดติดกับท่อระบายน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุรอบตลาดสด ถูกไฟไหม้เสียหายอีกกว่า 20 คัน มูลค่าความเสียหายกำลังสำรวจ แต่คาดว่าไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ขณะรถที่ประสบเหตุยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกได้ เพราะเกรงว่าจะมีความร้อนอยู่ภายใน
นางจรีรัตน์ ศรีโสภิตสวัสดิ์ อายุ 48 ปี เลขที่ 5 ม. 3 ถ.หนองกี่-ลำปลายมาศ ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ เล่านาทีระทึกว่า ตอนเกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายระเบิด ตนกับสามีจึงออกมาดูพบว่าไฟได้ไหม้ตามท่อระบายหน้าบ้าน มาทราบอีกทีเป็นอุบัติเหตุ ยอมรับตกใจไม่รู้จะวิ่งไปไหน เพราะมองเห็นเปลวเพลิงทั่วบริเวณ
นายอภินันท์ ภูบาล อายุ 34 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมัน กล่าวว่า ได้บรรทุกน้ำมันจากจังหวัดระยอง จะเอาไปส่งที่คลังน้ำมันที่ จ.ศรีสะเกษ ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถตามหลังรถบรรทุกจักรยานมา เมื่อมาถึงไฟแดง เห็นรถคันหน้าจอด แต่ตนเบรกไม่อยู่ เพราะฝนตกถนนลื่น จึงพุ่งชนแต่ไม่แรง แต่แรงกระแทกทำให้จุดปล่อยน้ำมันหลุดออก ทำให้น้ำมันไหลออกมา แต่ไม่ทั้งหมด เพราะถังน้ำมันจะแบ่งเป็นล็อก ที่ไหลออกมาประมาณ 20,000 ลิตร