น้องสู้มาก “ทราย เจริญปุระ” ร่ายยาวเผยสาเหตุน้ำตาไหล หลังได้ยินเสียงร้องของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ “แอมมี่ The Bottom Blues”
เป็นอีกหนึ่งคนที่มีจุดยืนทางการเมืองชัดเจน และเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยอยู่ตลอด สำหรับนักแสดงสาว “ทราย อินทิรา เจริญปุระ” ซึ่งเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา สาวเจ้าก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาวถึงเพื่อนร่วมอดุมการณ์อย่าง “เอมมี่ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์” หรือ “แอม The Bottom Blues” นักร้องหนุ่มคนดังที่มีจุดยืนอย่างชัดเจนซึ่งเดียวกัน
โดยงานนี้สาวทรายก็ได้เผยที่สิ่งที่ทำให้เธอนั้นหลั่งน้ำตา หลังได้ยินเพลงของแอมมี่ ไว้ว่า….
“เพลงแรนดอมมาถึงเพลงของบอททอมบลูส์แล้วเราก็นั่งร้องไห้เพราะได้ยินเสียงแอมมี่
น้องแม่งสู้มาก เราไม่รู้ว่าก่อนๆ นี้ภาพลักษณ์เค้าเป็นยังไง หรือดูแย่เรื่องความรับผิดชอบครอบครัวใดๆ ก็ตาม แต่วันที่ไปรับไผ่หน้าคุก แอมมี่พาแม่ไปด้วย แล้วแม่เค้าเข้ามาทักเรา บอกฝากน้องด้วยนะ ฝากมี่ด้วย เราคือแบบ.… เหมือนไม่ได้เขียนอะไรลงเฟซฯ ยาวๆ มาพักใหญ่ หลังจากที่ต้องรีบๆ ทำนั่นทำนี่ติดๆ กันมาร่วมเดือน
เราเป็นคนทุกข์ เป็นคนประสาทเสียไปทั้งเนื้อทั้งตัว ช่วงที่ผ่านมาคือมันมีความยินดีแหละ ที่ได้เห็นเหตุการณ์อะไรหลายๆ อย่าง ผู้คนร่วมกันจุดไฟในสายลม ซึ่งมันยาก แต่คนก็ต่อไฟกันมากขึ้น แต่ความประสาทแดกของเราก็ยังมีเสมอ เที่ยวห่วงคนนั้นคนนี้ กลัวว่าสายลมที่เราเผชิญอยู่มันจะรุนแรงเกินกว่าจะยื้อเปลวไฟ ดูรูปบางรูปหรือฟังเพลงบางเพลง ก็ไม่สามารถรู้สึกได้เหมือนเดิม กับบางคนบางกลุ่มก็คือเลิกติดตามหรือหมดความสนใจไปดื้อๆ บ่อยๆ ที่นั่งคิดว่าเราโรแมนติกไปหรือเปล่า ฝันไปหรือเปล่ากับผู้คน อ่อนไหวมากเกินไปหรือเปล่ากับชีวิตของใครต่อใคร แต่ก็จะโดนความจริงกระชากอยู่เรื่อยๆ ว่านอกจากความฝันความหวังแล้ว พื้นที่ตรงนี้มีคนมาหาประโยชน์เยอะมาก ทั้งเพื่อภาพลักษณ์และเพื่อเงิน มีคนวุ่นวายกับเราเยอะขึ้นมากจนน่ารำคาญ แล้วก็คงมีคนคิดบ้างล่ะมั้ง ว่าเราก็ไม่ต่างกัน อาจจะคิดว่าเราได้ภาพลักษณ์และได้เงิน ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเป็นเงินทองชื่อเสียง นอกจากจะเสียไปบ้าๆบอๆ ได้ฟ้องคนเพิ่มขึ้นซึ่งก็ไม่ได้น่ายินดีอะไร และสิ่งที่น่าจะได้มาก็คงจะเป็นหมายจับ ซึ่งถ้าโดนก็คงไม่แปลกใจ ผู้พิพากษายิงตัวตายไปแล้ว คนขับแท็กซี่ผูกคอตาย ส.ส.กรีดแขนหลั่งเลือดกลางสภา น้องๆ ถูกจับเข้าคุก เด็กนักเรียนโดนตบหน้าริมทางรถไฟ ผู้พิการโดนออกหมายจับเพราะไปเรียกร้องสิทธิ์เพื่อคนพิการ หรือจริงๆ แล้วแค่การมีชีวิตอยู่ ก็เป็นการยืนหยัดอย่างหนึ่งว่าเราจะไม่ยอม การมีชีวิตคือคำตอบหนึ่งของการขัดขืน เพื่อที่จะเห็นผู้คนไม่เหมือนเดิม ฟังเพลงไม่เหมือนเดิม และอ่านหนังสือเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไป” ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Inthira Charoenpura ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม : itr , ammybottomblues
