แม่ร่ำไห้ วอน ตร.ช่วยลูกสาว ม.6 ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบขู่ทำร้าย

2020-10-15 15:00:17

แม่ร่ำไห้ วอน ตร.ช่วยลูกสาว ม.6 ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบขู่ทำร้าย

Advertisement

 แม่ถึงกับช็อกร่ำไห้วอนตำรวจช่วยหลังลูกสาวนักเรียนชั้น ม.6 ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบขู่ทำร้าย ขณะที่จากการตรวจสอบพบนักเรียนหลายรายตกเป็นเหยื่อ ด้านตำรวจเตรียมออกหมายเรียกดำเนินคดี

ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่งใน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบหลังทราบว่า มีนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อ่างทอง ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบข่มขู่จะทำร้ายหลังไม่มีเงินส่งดอกเบี้ยให้กับกลุ่มเงินกู้นอกระบบดังกล่าว โดยเมื่อเดินทางไปถึงพบนางน้อย(นามสมมติ) อายุ 55 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับ น.ส. อิง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.แสวงหา อยู่ในอาการแศร้าซึมตาบวมเปล่งเนื่องจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

นางน้อยเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองทำอาชีพรับจ้างทั่วไปและอาศัยอยู่กับลูกสาว โดยเมื่อหลายวันก่อนลูกสาวได้มาบอกว่าได้ไปกู้เงินจากแก๊งเงินกู้นอกระบบทางเฟซบุ๊กเมื่อช่วงหยุดอยู่กับบ้านเพื่อที่จะนำมาซื้อขนมขายออนไลน์แต่ขาดทุนทำให้ไม่มีเงินส่งให้กับแก๊งเงินกู้นอกระบบตนจึงหาเงินส่งดอกให้ลูกสาวด้วยการนำของที่มีอยู่ภายในบ้าน เช่น เตาแก๊สถังแก๊สไปขาย แต่ก็ส่งดอกไม่ไหวจนกระทั่งแก๊งเงินกู้นอกระบบส่งข้อความมาด่าลูกสาวของตนอย่างเสียๆหายๆและมาขู่ลูกสาวตนว่าจะบุกมาทำร้ายที่บ้าน ตนจึงกลัวว่าลูกตนเองจะถูกทำร้ายแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเนื่องจากไม่มีของที่จะขายไปใช้ดอกเบี้ยที่สูงมากได้แล้ว ลูกสาวตนก็เลยไม่กล้าไปโรงเรียนเพราะกลัวถูกทำร้าย จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ




ขณะที่ น.ส.อิง ซึ่งตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินกู้รายวันนอกระบบแก๊งนี้เปิดเผยว่า ช่วงหยุดโควิดตนเองก็อยากจะหาเงินช่วยเหลือครอบครัว เมื่อไปเห็นมีการโพสต์ให้กู้เงินรายอาทิตย์ทางเฟซบุ๊กจึงทดลองทักไปในเฟซบุ๊กของผู้ใช้รายหนึ่ง ก่อนที่จะมีการโอนเงินให้ทางแอพลิเคชั่นไลน์ โดยต้องถ่ายบัตรประชาชนส่งไปให้ ครั้งแรกกู้มาในจำนวนเงิน 500 บาท 1 อาทิตย์ต้องคืน 650 บาทและต้องกู้ 3 ครั้งติดกันจึงจะสามารถขยับยอดไปถึง 2,000 บาท ได้ โดยแรกๆตนก็ส่งได้แต่หลังจากขายขนมขาดทุนจึงไม่มีเงินส่ง ทางโน้นก็จะปรับเป็นเงินวันละ 250 บาท โดยหลังสุดตนกู้มา 2000 บาทแต่ต้องจ่าย 2750 บาท พอผัดผ่อนก็บอกว่าจะปรับชั่วโมงละ 50 บาท ซึ่งตนที่โดนปรับไปแล้วก็เลยจากเงินต้นไปจำนวนมากแล้ว เมื่อไม่ส่งหรือไม่ยอมตอบแชทก็จะมีการทักมาด่าและขู่ว่าจะมาหาถึงบ้าน ซึ่งทั้งตัวเองและมารดากลัวว่าจะถูกทำร้ายเป็นอย่างมาก

นอกจากตนเองยังมีเพื่อนเล่าให้ฟังหลายคนว่าบางคนต้องถูกปรับและคิดดอกรวมๆแล้วเป้นเงินหลายหมื่นบาทจนถึงหลักแสนเพราะไม่มีเงินต้นส่งให้และไม่กล้าที่จะบอกพ่อแม่เนื่องจากกลัว แต่ในส่วนของตนกลังว่าจะถูกทำร้ายมากกว่าจึงบอกกับพ่อแม่เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว



เช่นเดียวกับ น.ส.อร อายุ 18 ปีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อ่างทอง ซึ่งก็ตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินกู้นอกระบบนี้เช่นเดียวกันเปิดเผยว่า ตนเองเห็นโพสต์ให้กู้เงินรายอาทิตย์จากเฟซบุ๊คซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนแต่จบออกไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยแล้ว โดยลองทักไปก็ปรากฏว่าทางรุ่นพี่คนดังกล่าวให้ทักไปที่พี่สาวที่ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง และเริ่มทำการกู้เงิน จากยอดเพียง 500 บาทที่กู้มาขายของกับเพื่อนเมื่อทบต้นทบดอกก็เป็นยอดที่สูงหลายหมื่นบาท เมื่อลองคำนวณ ตนเองไม่มีปัญญาใช้ทำให้รู้สึกเครียดและไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนเพราะกลับโดนทำร้ายจึงหันหน้าปรึกษาย่าเพื่อหาทางออก

โดยหลังจากนั้นทั้งหมดพร้อมด้วยญาติได้เดินทางไปที่ สภ.แสวงหา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแก๊งเงินกู้นอกระบบดังกบ่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่พบว่า มีการเรียกรับดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดสูงถึงกว่า 600 % ต่อปี และยังมีการข่มขู่ผู้เสียหายอีกด้วย โดยเจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้ที่เป็นคนปล่อยเงินกู้นี้มาดำเนินคดี ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ผู้ถูกกล่าวหา 1รายอยู่ในพื้นที่ จ.อ่างทองและอีกหนึ่งรายอยู่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี