ลิ้มรส “๔ เมนูพิเศษ” นามบทเพลงพระราชนิพนธ์

2017-10-16 17:50:49

ลิ้มรส “๔ เมนูพิเศษ” นามบทเพลงพระราชนิพนธ์

Advertisement

นับเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่สร้างความถูกอกถูกใจให้กับผู้ชื่นชอบลิ้มลองความอร่อยของอาหารเมนูใหม่ๆ ไม่ใช่น้อย เมื่อโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เชิญชวนทุกท่านร่วมเก็บบันทึกความทรงจำ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงจัดตั้ง “โครงการหลวง” ขึ้นเพื่อช่วยเหลือชาวเขาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลิ้มรสเมนูสุดพิเศษที่ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากโครงการหลวง นำมารังสรรค์เป็นเมนูสุขภาพที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์โดยฝีมือของเชฟผู้มากประสบการณ์ ในรูปแบบเมนูอะลาคาร์ต และเซตเมนูพิเศษมื้อค่ำ ให้ทุกท่านได้ลิ้มลองตลอดเดือนตุลาคมศกนี้



ทั้งนี้ ความพิเศษของเซตมื้อค่ำ 4 คอร์ส ไม่เพียงแต่จะมีรูปลักษณ์ที่สวยงามน่ารับประทานเท่านั้น ทุกเมนูยังมีความหมายและที่มาน่าสนใจ โดยชื่ออาหารแต่ละเมนูนั้น ตั้งขึ้นตามชื่อของบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทั้งสิ้น อันประกอบไปด้วย

คอร์สที่ 1 ไร้จันทร์ (No Moon) เกี๊ยวกุ้งก้ามแดงเสิร์ฟกับซอสน้ำเต้าและไข่ปลาคาเวียร์ วัตถุดิบจากโครงการหลวงในเมนูนี้คือ ฟักบัตเตอร์นัทและไข่ปลาคาเวียร์ ได้รับแรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 39 ที่หยิบเอาเนื้อสีเหลืองรสนุ่มละมุนของฟักบัตเตอร์นัตโครงการหลวงปรุงเป็นซอสได้ดูเจิดจรัสไม่ต่างกับแสงนวลตาของดวงจันทร์ เมื่อท็อปอัพด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์โครงการหลวง ยิ่งทำให้รสชาติของจานนี้โดดเด่น





คอร์สที่ 2 เกาะในฝัน (Dream Island) ซุปข้นอาหารทะเลกับดอกอัญชัน วัตถุดิบจากโครงการหลวงในเมนูนี้ คือ ดอกอัญชัน เกาะในฝัน คือบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 40 ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและเนื้อร้องภาษาอังกฤษพร้อมกัน เมนูนี้คือซุปซีฟู้ดเสิร์ฟในลูกมะพร้าว ให้กลิ่นอายและบรรยากาศของเกาะในฝันได้อย่างแจ่มชัด โดยนำ “ดอกอัญชัน” วัตถุดิบที่คนไม่ค่อยทราบว่าทางโครงการหลวงผลิตได้ มาปรุงในซุปให้จินตนาการถึงทิวทัศน์ท้องทะเลยามค่ำคืน



คอร์สที่ 3 เตือนใจ (Old Fashioned Melodies) เนื้อสันในโพนยางคำซูวีเสิร์ฟกับซอสพริกหวานแดง ผักย่างและมันหวานบด วัตถุดิบจากโครงการหลวงในเมนูนี้คือ พริกหวานแดง, ซูกินี, มะเขือม่วง และ แครอท จากบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 38 สู่ความหวานติดปลายลิ้นของผักสด 4 ชนิดจากยอดดอยโครงการหลวง ทั้งพริกหวานแดง ซูกินี มะเขือม่วง และแครอท มาร่วมบรรเลงความอร่อยให้กับรสสัมผัสอันอ่อนนุ่มของเนื้อสันในโพนยางคำที่นำไปผ่านกรรมวิธีซูวีด และสำหรับคนที่ไม่รับประทานเนื้อแดงก็ยังมีปลากะพงแดงให้เลือกอิ่มอร่อยในเมนูเดียวกัน คือ ปลากะพงแดงซูวีเสิร์ฟกับซอสพริกหวานแดง ผักย่างและมันหวานบด วัตถุดิบจากโครงการหลวงในเมนูนี้คือ พริกหยวกแดง, ซูกินี, มะเขือม่วง และ แครอท




คอร์สที่ 4 แว่ว (Echo) พานาคอตต้ามะม่วงมหาชนกกับมูสกล้วยหอมบนช็อกโกแลตเค้กและซอสเบอร์รี่ วัตถุดิบจากโครงการหลวงในเมนูนี้คือ ผลมะเดื่อ และ ดอกแพนซี รสนุ่มละมุนลิ้นของเมนูขนมหวานปิดท้ายมื้อจานนี้ได้สองวัตถุดิบโครงการหลวงที่น้อยคนจะเคยได้รับประทาน คือผลมะเดื่อฝรั่ง และดอกแพนซีที่เป็นดอกไม้กินได้ มาร่วมถ่ายทอดท่วงทำนองของบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 41 ซึ่งยังแว่วหวานในห้วงคำนึงได้อย่างลึกซึ้งไม่แปรเปลี่ยน


เพียงแค่ได้อ่าน ก็เสมือนได้สัมผัสรสชาติไปแล้วครึ่งหนึ่ง ส่วนครึ่งที่เหลือหากใครอยากรู้ว่ารสชาติแท้จริงของ 4 เมนูพิเศษนี้อร่อยนุ่มลิ้นเพียงใด คงต้องหาเวลาไปลิ้มลองกัน โดยรายได้ 9% จากทุกเมนูที่ใช้ผลิตภัณฑ์โครงการหลวงในช่วงเดือนนี้ทั้งหมด ร่วมบริจาคให้มูลนิธิโครงการหลวงได้สานต่อสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสร้างไว้อย่างยั่งยืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2200-9000 ต่อ 2345