กฟผ.โต้ข่าวลือ ยันเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์งดระบายน้ำ

2017-10-15 15:15:59

กฟผ.โต้ข่าวลือ ยันเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์งดระบายน้ำ

Advertisement

กฟผ. ยืนยันไม่มีการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ตั้งแต่ต้น ต.ค. เพื่อบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือ

เขื่อนภูมิพล

กฟผ. แจง ได้ปฏิบัติตามมติคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ โดยไม่มีการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ พร้อมขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำได้ทางเว็บไซต์ WATER.EGAT.CO.TH และแอพพลิเคชั่น EGAT Water ตลอด 24 ชั่วโมง





นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความในสื่อโซเชียลมีเดีย ระบุว่า จะมีการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลอีกกว่าวันละ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ นั้น ขอยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากปัจจุบัน เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ได้หยุดการระบายน้ำมาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์อุทกภัยและไม่เป็นการซ้ำเติมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวมทั้งได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำของเขื่อนทั้งสองแห่งอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์อยู่ที่ 9,238 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 69 และ 7,968 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 84 ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2560) และยังสามารถกักเก็บน้ำเพิ่มได้อีก เพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคและการทำเกษตรกรรมในช่วงฤดูแล้งปีหน้า

เขื่อนสิริกิิติ์




“กฟผ. ขอยืนยันว่าไม่มีการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และเขื่อนทั้งสองยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกโดยเขื่อนภูมิพลยังรับน้ำได้อีกประมาณร้อยละ 30 ของความจุ และเขื่อนสิริกิติ์ยังรับน้ำได้อีกประมาณร้อยละ 20 ของความจุ ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือ และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำได้ทางเว็บไซต์ WATER.EGAT.CO.TH และแอพพลิเคชั่น EGAT Water ซึ่งสามารถดาวน์โหลดค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำได้อย่าง Real Time ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมีการถ่ายทอดสดจากกล้อง CCTV ของแต่ละเขื่อนอีกด้วย” นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง กล่าวในที่สุด