ผวจ.ประจวบฯแจกอุปกรณ์ป้องกันโควิดให้ทุกอำเภอ

2020-10-08 16:50:46

ผวจ.ประจวบฯแจกอุปกรณ์ป้องกันโควิดให้ทุกอำเภอ

Advertisement

ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์แจกอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด-19 ให้ทุกอำเภอ

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นางนิศากร สิงหเสนี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ และ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัด ร่วมมอบอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ภายหลังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ประกอบด้วย ชุด PPE จำนวน 840 ชุด เครื่องเทอร์โมสแกน จำนวน 48 อัน ถุงมือยาง 9,600 ชิ้น หน้ากากอนามัยแบบกระดาษ 4,800 ชิ้น หน้ากากอนามัยแบบผ้า 4,000 ชิ้น เจลแอลกอฮอล์ 80 แกลลอน และแอลกอฮอล์น้ำ 16 แกลลอนให้ผู้แทนจาก 8 อำเภอ เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงานป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ พร้อมกันนี้ นายพัลลภ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานความมั่นคง ฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน บูรณาการการทำงานอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเฝ้าระวังคนต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา เสี่ยงต่อการนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาระบาดในไทย ปัจจุบันมีการนำรั้วลวดหนามปิดกั้นช่องทางธรรมชาติกว่า 40 จุด มีกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกออกลาดตระเวนทั้งกลางวันและกลางคืน รวมทั้งมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ตำบลชายแดนกว่า 20 จุด นอกจากนี้ที่ผ่านมาได้มีการสุ่มตรวจกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ตามแนวชายแดนทั้ง 8 อำเภอ อำเภอละ 400 ตัวอย่าง เพื่อหาเชื้อโควิด 19 ผลปรากฏว่าไม่พบเชื้อโควิดแต่อย่างใด 


นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ประเทศเมียนมา ยังคงมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ดังนั้นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมาทั้ง 8 อำเภอต้องเฝ้าระวังคนต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศอย่างเข้มงวดต่อเนื่องทั้งช่องทางหลักคือจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรและช่องทางธรรมชาติ โดยทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพร้อมเข้าทำการสอบสวนโรคคนต่างด้าวผิดกฎหมายทันทีที่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานความมั่นคง ขณะเดียวกัน กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ได้จัดเตรียมสถานที่รองรับการกักตัวชั่วคราวบริเวณชายแดน อ.เมือง อ.ปราณบุรี และ อ.บางสะพาน ที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ปัจจุบันยังคงผ่อนผันให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าส่งออกสินค้าแห้งได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดแต่ได้ปรับเพิ่มความเข้มงวดมาตรการป้องกันโควิด 19 ในการขนถ่ายสินค้าบริเวณแนวสันแดนให้รัดกุมมากขึ้น แต่ยอมรับว่าหากพื้นที่ อ.ตะนาวศรี จ.มะริด มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ อาจจะต้องพิจารณาทบทวนเรื่องการผ่อนผันให้ขนส่งสินค้าอีกครั้ง 


นายสมเกียรติ เอาจี่มิด ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการค้าอาหารทะเล จ.มะริด ประเทศเมียนมา ผู้ประสานงานกับหน่วยภาครัฐและองค์กรภาคเอกชนที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ อ.เมืองมะริด มีผู้ติดเชื้อ 15 ราย ขณะที่ อ.ปะล้อ เขตติดต่อ จ.ทวาย มีผู้ติดเชื้อ 41 ราย โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้นำไปรักษาในจุดที่ห่างไกลจากชุมชนเพื่อป้องกันการระบาดซ้ำ และมีการกักตัวผู้เข้าข่ายต้องสงสัยอีกจำนวนมากทั้งในโรงแรมและสถานที่กักตัวของรัฐ สำหรับ อ.ตะนาวศรี ซึ่งห่างจากชายแดนไทยด้านทิศตะวันตกที่ด่านสิงขร 90 กม.ยังไม่พบผู้ติดเชื้อและยืนยันว่าสถานการณ์ไม่น่ากังวลเนื่องจากทางการเมียนมาได้ตั้งจุดตรวจคัดกรองที่สะพานข้ามแม่น้ำตะนาวศรี เพื่อป้องกันการระบาดใน อ.ตะนาวศรีและ จ.เกาะสอง และยอมรับการระบาดของโควิด-19 ในเมียนมาทำให้มีผลกระทบกับการค้าและการลงทุน ขณะที่การท่องเที่ยวจะเปิดอย่างเป็นทางการหลังจากมีวัคซีนป้องกันโรคแล้วเท่านั้น 


“ ล่าสุดทางการเมียนมาจะควบคุมโรคเพื่อป้องกันการระบาดเพิ่มภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ รัฐบาลเมียนมายืนยันว่าจะไม่มีการเลื่อนวันเลือกตั้งอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบและความเสียหายในการบริหารประเทศ ทุกฝ่ายพร้อมจัดการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์โควิด 19 อย่างแน่นอน แต่ก่อนการเลือกตั้งได้สั่งห้ามผู้สมัครจากทุกพรรคทำการประชุม หรือออกปราศรัยหาเสียงอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้มีประชาชนจำนวนมากไปรวมตัว นอกจากนั้นรัฐบาลได้แจ้งว่าภาพผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากโควิด 19 ที่มีการแพร่ในโซเชียลทั้งในประเทศไทยและเมียนมาเป็นข่าวปลอม มีผู้ไม่ประสงค์ดีใช้โจมตีเพื่อประโยชน์ทางการเมือง” นายสมเกียรติ กล่าว

อ่านข่าวอื่น ๆเพิ่มเติม