รัฐบาลอิตาลีประกาศมาตรการใหม่ เมื่อวันพุธ บังคับประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน เมื่ออยู่นอกบ้าน ทั้งในและนอกอาคาร ทั่วประเทศ ยกเว้นในบ้านพักส่วนตัว ในความพยายามควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19
แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในอิตาลี จะน้อยกว่าหลายประเทศในยุโรปมาก แต่จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีจุซเซปเป คอนเต ของอิตาลี กล่าวว่า จำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มงวด เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการล็อกดาวน์ หรือปิดประเทศครั้งใหม่ ที่สร้างความหายนะต่อเศรษฐกิจ
นับตั้งแต่วันพุธ ประชาชนทุกคนในอิตาลี จะต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือชุดป้องกัน ตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกบ้าน ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกอาคาร เช่น ร้านค้า สำนักงาน ระบบขนส่งสาธารณะ บาร์ และร้านอาหาร เมื่อยังไม่นั่งโต๊ะรับประทาน
มาตรการนี้ ถูกประกาศใช้ไปก่อนแล้ว ในหลายพื้นที่ที่มีการติดเชื้อสูงขึ้น เช่น ในเมืองหลวงกรุงโรม แต่การประกาศครั้งใหม่เมื่อวันพุธ ให้มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ
ก่อนหน้านี้อิตาลีเป็นหนึ่งในประเทศ ที่บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดที่สุดในโลก เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 เป็นประเทศแรกในทวีปยุโรป เมื่อต้นปีนี้
แม้ว่ารัฐบาลอิตาลีจะประสบความสำเร็จ ในการควบคุมการระบาดของไวรัส ได้ดีกว่าหลายประเทศในภูมิภาค ในระยะไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ในระยะ 24 ชั่วโมงล่าสุดจนถึงพุธ ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศ 3,678 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อสูงเกินวันละ 3,000 คนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.