ครม.เคาะทุ่มหมื่นล้านจ้างงาน "ปชช.-นศ."ทั่วประเทศ

2020-10-06 16:30:10

ครม.เคาะทุ่มหมื่นล้านจ้างงาน "ปชช.-นศ."ทั่วประเทศ

Advertisement

ครม. เคาะทุ่มหมื่นล้านจ้างงาน "ปชช.-นศ." กว่า 6 หมื่นราย ผ่าน “โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย”

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ภายใต้กรอบวงเงิน 10,629.600 ล้านบาท แบ่งออกเป็นค่าจ้างงาน 60,000 อัตรา งบประมาณ 7,920 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินโครงการและการกิจกรรมซึ่งจะเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ 3,000 ตำบล จำนวน 2,400 ล้านบาท (800,000 บาท/ตำบล) และค่าบริหารจัดการโครงการ 309.600 ล้านบาท เพื่อให้เกิดการจ้างงานประชาชนทั่วไป บัณฑิตจบใหม่ และนักศึกษา รวม 60,000 ราย ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายสามารถเป็นผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากมาตรการของภาครัฐที่ผ่านมาได้ แต่ต้องไม่เป็นบุคคลที่ได้รับจ้างงานภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีจุดเน้นเกี่ยวกับการจ้างงานในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปแล้ว

นายอนุชา กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการดังกล่าว จะดำเนินการผ่านกิจกรรมต่างๆ ดังนี้ 1.การจ้างงานตำบลละ 20 คน (จ้างนักศึกษา/บัณฑิตจบใหม่/ประชาชนทั่วไป) เพื่อดำเนินกิจกรรม ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) การเฝ้าระวังประสางานและติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 การจัดทำข้อมูลราชการในพื้นที่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การจ้างงานเพื่อการพัฒนาสัมมาชีพและสร้างอาชีพใหม่ การสร้างและพัฒนา Creative Economy การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชนและการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม การพัฒนาทักษะอาชีพใหม่ และการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม 2.การสนับสนุนการดำเนินโครงการ/กิจกรรมตามรูปแบบกิจกรรมที่จะเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ที่สถาบันอุดมศึกษารับผิดชอบตามบริบทของพื้นที่ให้แก่ชุมชน 3,000 ตำบล ได้แก่ การพัฒนาสัมมาชีพและการสร้างอาชีพใหม่ (ยกระดับสินค้า OTOP /อาชีพอื่นๆ ) การสร้างและพัฒนา Creative Economy (การยกระดับการท่องเที่ยว) 3.การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน (Health Care/ เทคโนโลยีด้านต่างๆ) และการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม /Circular Economy (การเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชน)




นายอนุชา กล่าวต่อว่า 3.สนับสนุนการบริหารจัดการและการดำเนินการของ National System Integrator และ Regional System Integrator และการดำเนินการของ System Integrator เพื่อบูรณาการโครงการและข้อมูลในภาพรวมของการดำเนินการสำหรับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ประชาชนทั่วไป ซึ่งต้องเป็นประชาชนในพื้นที่หรือใกล้เคียงที่ว่างงานและไม่ได้รับค่าตอบแทน หรือค่าจ้างจากหน่วยงานอื่นของภาครัฐและเอกชน โดยจะจ้างในอัตรา 9,000 บาท/เดือน ส่วนบัณฑิตจบใหม่ที่สำเร็จการศึกษาไม่เกิน 3 ปี และมีความรู้ความสามารถที่ตรงต่อภารกิจในการปฏิบัติงาน จะจ้างในอัตรา 15,000 บาท/เดือน และนักศึกษาหรือผู้ที่อยู่ระหว่างการศึกษาในระดับอุดมศึกษา อาชีวศึกษา จากสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่มีความรู้ความสามารถตรงต่อภารกิจในการปฏิบัติงาน จะจ้างในอัตรา 5,000 บาท/เดือน

นายอนุชา กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ เกิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ตามปัญหาและความต้องการของชุมชน ซึ่งส่งผลต่อการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของตำบลเป้าหมาย เนื่องจากเกิดการจ้างงานที่ตอบสนองต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ และเกิดเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาและชุมชน ทั้งนี้ อว.จะดำเนินการจ่ายค่าจ้างผ่านบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก โดยจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลการจ้างงานกับแพลตฟอร์มแรงงาน (Labour Platform) ของกระทรวงแรงงาน เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มเป้าหมายของโครงการ เกิดความซ้ำซ้อนกับโครงการหรือมาตรการอื่นของภาครัฐ