สามีวอนช่วยเหลือค่าดูแลรักษาภรรยา พญ. ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราใน รพ.มานาน 15 ปี มีค่ารักษาเดือนละ 3 หมื่น แพทย์ประเมินคาดภรรยาอยู่ได้อีก 5 ปี รับปากกับครอบครัวฝ่ายหญิงจะดูแลจนวินาทีสุดท้ายา เผยชีวิตพลิกผันเคยเปิดโชว์รูมขายรถยนต์ แต่เจอวิกฤตโดนฟ้องล้มละลายเหลือแต่ตัวเปล่า
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายสุบิน มัตราช อายุ 58 ปี ได้ร้องทุกข์มายังนิว 18 ว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่ใน ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ชีวิตครอบครัวแต่งงานอยู่กินกับภรรยา พญ.อรพิน มัตราช หรือ "หมอเล็ก" อายุ 50 ปี มีบุตรชายด้วยกัน 2 คน ภรรยาเรียนจบคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเรียนต่อสาขาสูตินรีเวช ปี 2544 โดยได้ทุนจาก รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พอใช้ทุนเสร็จสิ้นแล้วจึงลาออก แต่ยังคงทำงานช่วยเหลือทางราชการ โดยการตรวจคนไข้ให้กับทางโรงพยาบาล โดยไม่ขอรับเงินเดือนประมาณ 3 ปี
"ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2548 ภรรยาได้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เลือดออกทางสมองได้ถูกส่งตัวไปผ่าตัดสมองที่ รพ.อุดรธานี แต่ไม่ฟื้น จึงได้ส่งตัวไปฝาตัดที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นก็ไม่มีสัญญาณฟื้นตัวโดยได้นอนรักษาตัวเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และเป็นคนไข้ติดเตียงตลอดมาเป็นเวลา 15 ปี ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาจำนวนมาก ปัจจุบันภรรยาได้นอนรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 2 ตึกพวงผกา รพ.สมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมได้ออกใช้จ่ายในการดูแลรักษาเรื่อยมาประมาณ 3 หมื่นบาทเดือน ต่อมาปี 2558 ธุรกิจการจำหน่ายรถยนต์เกิดวิกฤตประสบปัญหาภาวะขาดทุน และได้ปิดกิจการลงทั้งหมด จึงส่งผลให้ไม่มีงินและรายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา พญ.อรพิน โดยญาติได้ให้ความช่วยเหลือด้วยดีตลอดมา จนถึงเดือน มี.ค.2563 เกิดการระบาดของโควิด-19 ได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางศรษฐกิจจึงไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้อีก" นายสุบิน กล่าว
นายสุบิน กล่าวอีกว่า ภรรยาของผมนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรามานาน 15 ปีแล้ว ตอนนี้มีค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณ 3 หมื่นบาท เป็นค่าจ้างคนดูแล และค่าอาหาร ผมสัญญากับครอบครัวเขาและเขาว่าจะดูแลเขาจนสุดความสามารถ ที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่ตัวเองดีที่สุดแล้ว ตอนนี้ถูกฟ้องล้มละลาย ต้องขายบ้าน ขายรถ ขายทุกอย่าง หมดเนื้อหมดตัว ต้องอาศัยบ้านของญาติิ คุณหมอประเมินว่าภรรยาผมจะอยู่ได้อีกประมาณ 5 ปี เพราะร่างกายเข้าสู่ภาวะโหมดไม่ทำงาน ตัวเขามีโรคชักอยู่ด้วย ผมหวังว่าจะดูแลเขาเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็มีค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 3 หมื่นบาท ผมจึงอยากให้เป็นสื่อกลางในการขอความช่วยเหลือตรงนี้ เพราะญาติพี่น้องเองก็ประสบวิกฤตเศรษฐกิจเช่นกัน
"สำหรับทุกท่านที่ช่วยเหลือมาไม่ว่าเท่าไหร่ ผมขอบคุณมาก สถานการณ์แบบนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ไม่มีลู่ทางเลย ตอนนี้ผมก็ต้องรักษาอาการทางจิตเวชด้วย เพราะถ้ากินยาไม่กินฟุ้งซ่าน "นายสุบิน กล่าว
นายสุบิน บอกด้วยว่า ก่อนจะเผชิญวิกฤตในชีวิต เดิมเปิดโชว์รูมขายรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง 4 สาขา ช่วงที่รัฐบาลมีนโยบายรถคันแรกขายดี แต่หลังจากนั้นก็ประสบปัญหา พอหันไปขายอีก 2 ยี่ห้อก็ประสบปัญหาเช่นกัน จนต้องปิดตัวลง ถูกฟ้องล้มละลาย ตกงาน ไม่มีบ้านอยู่ และมีค่าใช้จ่ายหลัก การดูแลภรรยา สำหรับลูกคนโตเรียนหนังสืออยู่ กทม. ตอนนี้ปี 4 แล้วก็ได้ญาติช่วยส่งเสียค่าเล่าเรียน ส่วนลูกชายคนเล็กก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แม้จะไม่มีความหวังว่าเขาจะฟื้นขึ้นมา แต่ผมก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุดตราบเท่าที่ชีวิตยังเหลืออยู่เพราะได้ให้สัญญากับทางครอบครัวเขาแล้ว
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือทางครอบครัวของคุณสุบิน และ พญ.อรพิน หากไม่สามารถโอนเข้าบัญชีทาง พญ.อรพินได้ เนื่องจากเป็นบัญชีที่เกิดมานานแล้ว สามารถโอนได้ที่บัญชีของบุตรชาย คือ นายศุภกฤต มัตราช ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 4134487620