“ดำรงค์” จี้หาข้อเท็จจริงปมเก้งเผือกหายไป

2020-10-06 13:20:40

 “ดำรงค์” จี้หาข้อเท็จจริงปมเก้งเผือกหายไป

Advertisement


“ดำรงค์” จี้หาข้อเท็จจริงปมเก้งเผือกพระราชทานหายไป พร้อมเรียกร้องสังคายนาองค์กรสวนสัตว์ตั้งแต่ระบบแต่งตั้งหวั่นเป็นเส้นสายพ่อค้าสัตว์ข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 6 ต.ค.นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการค้าสัตว์ป่าภายในสวนสัตว์ หลังจากเกิดเหตุลูกเก้งเผือกภายในสวนสัตว์ จ.สงขลาหายไป ว่า ตอนที่ตนดำรงตำแหน่งอธิบดีอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เคยมีบัตรสนเท่ห์แจ้งว่ามีกระบวนการลักลอบค้าลูกวัวแดง ซึ่งตนได้ตรวจสอบในพื้นที่พบคำบอกเล่าจากลูกจ้างชั่วคราวว่าราคา ตัวละ 5แสนบาท แต่ในครั้งนั้นไม่ได้ตรวจสอบเพื่อเอาผิดหรือตัดวงจรค้าสัตว์ในสวนสัตว์ แต่ได้ใช้มาตรการเชิงป้องปรามคือสั่งให้ตรวจดีเอ็นเอ็นลูกของสัตว์ที่เกิดในสวนสัตว์ทุกตัวหลังจากเกิดแล้ว ภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อใช้ติดตามตัว

"เหตุการณ์ลูกเก้งเผือกที่หายไป ถือว่าสำคัญ เพราะสัตว์ที่ได้มาคือสัตว์พระราชทาน ต้องเร่งติดตามและหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าเรื่องนี้หากหัวหน้าไม่เอาด้วยคงไม่มีใครกล้า ขณะที่การค้าสัตว์ป่าข้ามชาติหากสามารถส่งไปยังต่างประเทศได้ จากมูลค่าหลักแสน จะกลายเป็นหลักล้านบาททันที ดังนั้นระบบของสวนสัตว์ต้องได้รับการสังคายนา ตั้งแต่ระบบการแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งในองค์การสวนสัตว์ เพราะหากคนที่เป็นเส้นสายของพ่อค้าต่างชาติได้ การค้าสัตว์ป่าออกนอกประเทศย่อมทำได้ง่าย” นายดำรงค์ กล่าว

ประธานที่ปรึกษา กมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวด้วยว่าส่วนการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวภายใน กมธ.นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจาก นายอภิชาต ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ.ให้นัดประชุมเพื่อหารือเรื่องดังกล่าวและที่ผ่านมาในงาน กมธ.ยังไม่เคยพิจารณา แต่คาดว่าเมื่อ กมธ.ได้นัดประชุม อาจนำเรื่องการลักลอบค้าสัตว์ป่าเข้าหารือเพื่อหาข้อเท็จจริงและเสนอแนะมาตรการป้องกันไปยังฝ่ายนโยบาย