"บิ๊กป้อม" ชื่นชมลดก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมาย

2020-10-05 23:55:15

"บิ๊กป้อม" ชื่นชมลดก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมาย

Advertisement

"บิ๊กป้อม" รณรงค์ลดโลกร้อน ชื่นชมได้ผลตามเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก สั่งตั้งภาคีขับเคลื่อนต่อเนื่อง 

เมื่อ 5 ต.ค. พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (กนภ.) ครั้งที่ 2/2563 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่ประชุม ได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานที่สำคัญของ กนภ.ซึ่งตามที่ประเทศไทย ได้เป็นสมาชิกข้อตกลงพิธีสารมอนทรีออล ที่จะต้องมีการควบคุม และรณรงค์ให้ลดการผลิต และการใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน โดยรัฐบาลมีแนวทางการขับเคลื่อน เร่งรัดและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า "BCG" ประกอบด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้ให้ความเห็นชอบเงื่อนไขการใช้สารทำความเย็นในกิจการห้องเย็น เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการลดภาวะโลกร้อน และแนวคิดทางเศรษฐกิจ "BCG" หลังจากนั้นได้พิจารณาเห็นชอบ ผลการลดก๊าซเรือนกระจก จากมาตรการภาคพลังงาน พ.ศ.2561 จำนวนทั้งสิ้น 57.84MtCO2 คิดเป็นร้อยละ 15.76 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของ การดำเนินงานลดก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมของประเทศ (Nationally Appropriate Mitigation Action: NAMAs )  และเห็นชอบ รายงานความก้าวหน้ารายสองปีฉบับที่ 3 ซึ่งจะต้องส่งไปยังสำนักเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) และเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ จัดการประชุมภาคีขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย เพื่อความเข้าใจและตระหนักรู้ตามกรอบอนุสัญญา UNFCCC และความตกลงปารีส

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติตามมาตรการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของ NAMAs และได้กำชับให้ กนภ.มีการกำกับ ติดตามการดำเนินงานเรื่องที่ผ่านความเห็นชอบไปแล้วในวันนี้ อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้ ทส.กำกับการจัดการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานฯ ให้มีความคืบหน้า เป็นรูปธรรม และรายงานให้ทราบ ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้รณรงค์ขอให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชนได้เห็นความสำคัญของปัญหาภาวะโลกร้อน ที่จะต้องร่วมกันแก้ไขตามมาตรการของรัฐบาล อย่างจริงจัง เพื่อช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศ และของโลก ไปพร้อมๆกันด้วย