ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดทำโครงการ “น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ 2 มหาราช” บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดเดือน ต.ค.
รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคมของทุกปี มีวันสำคัญของคนไทย นั่นคือ วันที่ 23 ต.ค. หรือวันปิยมหาราช ซึ่งเป็น วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงวางรากฐานและนำความเจริญ สู่สยามประเทศในรัชสมัยของพระองค์ และสืบเป็นแบบแผนแห่งการพัฒนา นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง “สภาอุณาโลมแดง” ขึ้น และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปีพ.ศ. 2436 จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “สภากาชาดไทย” จวบจนปัจจุบันนี้ และวันที่ 13 ต.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นกษัตริย์ผู้เป็น ที่รัก เทิดทูน และเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ ทรงมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อวงการแพทย์ ทรงสนับสนุนส่งเสริมงานด้านบริการโลหิตมาอย่างต่อเนื่อง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคาร “รังสิตานุสรณ์” เพื่อเป็นอาคาร ที่ทำการบริการโลหิต และเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2512 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด “อาคารศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ” เพื่อใช้เป็นอาคารที่ทำการบริการโลหิตหลังใหม่
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ทั้ง 2 พระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ อันเป็นคุณประโยชน์อเนกอนันต์แก่อาณาประชาราษฎร์เป็นสำคัญ ทรงยึดถือมั่นในทศพิธราชธรรม และดำรงพระองค์มั่นในราชธรรมทั้งสิบประการโดยสม่ำเสมอ ยังผลให้เกิดความรุ่งเรือง และเป็นปึกแผ่นของชาติ เป็นที่ประจักษ์แจ้ง แก่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ จนกระทั่งเสด็จสวรรคต
แม้ระยะเวลาจะล่วงเลยมาจวบจนปัจจุบัน เหล่าพสกนิกรชาวไทยยังคงคำนึงถึงพระมหากรุณาธิคุณ ทั้ง 2 พระองค์ เสมอมาไม่เสื่อมคลายในศุภสมัย และตั้งใจสืบสานตามพระราชปณิธานของพระองค์อย่างแน่วแน่สืบไป จึงขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทย ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล ตลอดเดือน ต.ค.2563 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ จ.ลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง) สงขลา และภูเก็ต