ผบ.ตร.เปิดไทม์ไลน์สรุป"คนร้าย"ฆ่า"น้องชมพู่"บนภูเหล็กไฟ

2020-10-02 16:45:51

ผบ.ตร.เปิดไทม์ไลน์สรุป"คนร้าย"ฆ่า"น้องชมพู่"บนภูเหล็กไฟ

Advertisement

ผบ.ตร. ยก 8 เหตุผลเชื่อ "คนร้าย" จงใจพา "น้องชมพู่" ขึ้นภูเหล็กไฟ ก่อนทำให้ถึงแก่ความตาย

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. แถลงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เวลาประมาณ 09.49 น. เด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี หายตัวไปจากบ้านพัก ชาวบ้านจึงระดมกำลังออกตามหาแต่ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด น.ส.สาวิตรี วงศ์ศรีชา มารดาของน้องชมพู่ จึงได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ ศรีจันดา พนักงานสอบสวน สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร จากนั้นได้ระดมกำลังออกค้นหาอย่างหนัก กระทั่งวันที่ 14 พ.ค. เวลาประมาณ 19.00 น. จึงพบศพน้องชมพู่ อยู่บนเขาภูเหล็กไฟ ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นคดีที่สะเทือนขวัญ และเป็นที่สนใจของประชาชนทั้งประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมา ซึ่งขณะนั้นตนเป็นผู้ควบคุมการสืบสวนคดีด้วยตนเอง

​​ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า จากการสืบสวบสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบถามพยานบุคคลจำนวน 384 ปาก สามารถนำผลสอบปากคำเข้าสำนวนการสอบสวนได้ 120 ปาก นอกจากนี้ยังสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญอีก 13 ปาก และเก็บวัตถุพยานที่เป็นหลักฐานสำคัญในคดีซึ่งทำการตรวจพิสูจน์แล้ว 113 ชิ้น โดยเป็นหลักฐานบนที่เกิดเหตุ 16 ชิ้น เก็บตัวอย่าง DNA บุคคล จำนวน 154 ตัวอย่าง โดยสรุปข้อมูลที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนแล้วยืนยันว่า น้องชมพู่ ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตนเอง มีเหตุผลสรุป ดังนี้

​1.เส้นทางที่ยากลำบากเกินความสามารถของน้องชมพู่ เพราะเนินมีความลาดชันมากกว่า 60 องศา และขวางกั้นในทุกเส้นทาง




​2.พลังงานจากอาหารมื้อสุดท้ายที่น้องชมพู่ รับประทาน ไม่เพียงพอต่อการเดินไปบนจุดพบศพ



3.ประสบการณ์ชาวบ้านยืนยันว่าเด็ก 3 ขวบ จะปีนป่ายไปถึงได้แค่ชั้นที่ 2 ของภูเหล็กไฟเท่านั้น ​




4.กรณีศึกษาการหลงป่า ของ นางทิน เชื้อคมตา ชาวบ้านกกตูมชาวบ้านสามารถหาได้เจอภายในคืนเดียว ​


5.แพทย์ผู้ชันสูตรและกุมารแพทย์ ยืนยืนว่า พัฒนาการของเด็กอายุ 3 ขวบ ไม่สามารถที่จะเดินขึ้นไปเองได้ ​


6.สภาพศพที่เปลือยกาย ซึ่งบิดาและมารดาของน้องชมพู่ ยืนยันว่าน้องชมพู่ ไม่สามารถถอดเสื้อเองได้ ​


7.พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ที่ตรวจพบเส้นผมน้องชมพู่ถูกตัดด้วยมีด เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำของบุคคลอื่น


​8.นิสัยส่วนตัวของน้องชมพู่ กลัวที่สูง และกลัวป่า ที่ผ่านมาของน้องชมพู่ ไม่เคยไปในป่าหลังบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว



ผบ.ตร. กล่าวทิ้งท้ายว่า จากหลักฐานที่ปรากฏ จึงเชื่อว่ามีคนพาน้องชมพู่ ไป และทำให้น้องชมพู่ ถึงแก่ความตาย ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งผู้กระทำผิดนั้นจะต้องมีความผิดฐานพรากเด็กและกักขังหน่วงเหนี่ยว เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และมีความผิดในข้อหาซ่อนเร้น เคลื่อนย้ายทำลายและอำพรางศพ และ​​จากการสืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่ทำอย่างรอบคอบและครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แต่ยังไม่พบพยานหลักฐานที่จะลงโทษบุคคลใดได้ แต่จากการสืบสวนก็มีบุคคลต้องสงสัย ซึ่งตอนนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้ และหากปรากฏพยานหลักฐานเพิ่มเติมเมื่อใดก็จะสามารถดำเนินคดีกับคนร้ายต่อไปได้