“พุทธิพงษ์” แย้มสัปดาห์หน้าชัดเจน "บิ๊กป้อม"เรียกถกคณะกรรมการบริหาร พปชร. เฟ้นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า พปชร. เป็นประธาน ถึงความพร้อมในการส่งผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า ในสัปดาห์หน้าหัวหน้า พปชร. จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคถึงแนวทางการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยมีแนวทางว่าจะส่งผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ และจะส่งใคร หรือหากไม่ส่ง จะมีแนวทางอย่างไรต่อไป อาทิ การสนับสนุนผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และมีแนวทางใกล้เคียงกับ พปชร. หากเขาอาจจะลงอิสระ ทางพรรคจะพิจารณาว่าหากสนับสนุนแล้วจะได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ อีกทั้งทางพรรคจะดูว่าเป็นเครือข่ายกันหรือไม่ และจะสนับสนุนในแนวทางใด ยืนยันว่า พปชร. มีคนเหมาะสมที่จะลงชิงผู้ว่าฯ กทม. หลายคน ซึ่งขณะนี้กำลังพูดคุยกันอยู่ ทั้งอยากให้ลงในนามพรรค และลงเป็นแนวร่วม ซึ่งเราก็ต้องดูต่อไปว่าทำได้มากน้อยเพียงใด โดยจะดูทั้งจังหวะ ระเบียบ ข้อบังคับ และความเหมาะสมประกอบกัน
เมื่อถามว่า ในรายชื่อคนที่เหมาะสมจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. มีชื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. รวมอยู่ด้วยหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ต้องไปดูว่าท่านมีความสนใจจริงหรือไม่ ที่ผ่านมายอมรับว่าเคยทำงานร่วมกันและพูดคุยกันบ้าง ตามประสาพี่น้อง แต่จะสรุปแบบไหนอย่างไรให้รอดูมติของพรรค และการตัดสินใจของหัวหน้า พปชร. เป็นหลักว่า ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อน กทม.ของ พปชร. จะเป็นอย่างไร
ต่อข้อถามว่า ผู้สมัครของ พปชร. จะสามารถต่อสู้กับนายชัชชาติ ได้หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า พปชร. เป็นพรรคการเมืองหลักของรัฐบาล หากเราตัดสินใจอย่างไรก็ต้องมีความมั่นใจ คนที่เราส่งจะต้องมีศักยภาพแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และปัญหาน้ำท่วม ให้พี่น้องประชาชนชาว กทม. ได้เป็นอย่างดี เราต้องหาคนที่มีความสามารถ ความตั้งใจ และพร้อมจะปรับตัวตลอดเวลา ซึ่ง เป็นแกนหลักของรัฐบาลหากเราสนับสนุนใครหรือส่งใครก็ต้องมั่นใจว่าจะชนะ
เมื่อถามว่า จะต้องพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก่อนการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูเพราะทุกพรรคก็มีความหวังและความตั้งใจที่อยากจะส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็ต้องมาคุยกันว่าแต่ละพรรคมีมติอย่างไร เพราะทุกพรรคมีเงื่อนไขและแนวทางในการหาผู้ว่าฯ กทม. ที่แตกต่างกัน ก็ต้องดูว่าอะไรที่เข้ากันได้ก็ต้องมาคุยกัน หากมีความจำเป็นตามแนวทางประชาธิปไตย ถ้าไม่มีทางเลือกก็ต้องลงสมัครแข่งขันกันถือเป็นเรื่องปกติ