เรียกว่ารักครั้งใหม่จะทำให้พระเอกหนุ่ม"อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม" ดูเปลี่ยนไปในทางที่หวานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังเจ้าตัวได้เผยว่ามีแพลนที่จะควงสาว"ณัฐ ณิชชา" เข้าสู่ประตุวิวาห์ในอนาคต ล่าสุดพอได้เจอเจ้าตัวในงาน“เนสกาแฟ เดย์ 2020” เลยขออัพเดตสถานะความสัมพันธ์และแพลนการใช้ชีวิตร่วมกัน โดยเจ้าตัวได้เผยว่า
ถามถึงทริปเกาะพะงันเป็นยังไงบ้าง? ครับ ก็ตัวผมเองและรวมถึงคุณแฟน(หัวเราะ) คุณแฟนเป็นคนที่อินกับเรื่องของดีไซน์ เรื่องถ่ายรูป ในเวลาว่างเราก็ถ่ายรูปกันครับ เก็บไว้เป็นพรีเวดดิ้งด้วยไหม? อะไรที่ทำให้เขานั่นแหละ ทำให้เรามีภาพนี้?
ดีครับ ช่วงนี้เดินทางผมรู้สึกว่าเงียบดีสงบดี ไปกับคนที่สำคัญก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ครับ
เห็นมีรูปสวย ๆ เพียบเลย?
ไม่ขนาดนั้นครับ คนชอบถ่ายรูปก็ถ่ายรูป มันอาจไม่มีนัยยะอะไรขนาดนั้น ส่วนเรื่องของพรีเวดดิ้งก็อาจจะรู้สึกเขินหน่อย สมมติว่าเราจะทำสไตล์นั้น ผมว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนี้
เพื่อนๆมาแซวและเชียร์ให้แต่งงานเลย?
ก็เป็นเรื่องที่คุยกันไว้ครับ ทุกอย่างก็มีเวลาของมันอยู่ครับ
มีวางแผนกันไว้แล้วใช่ไหม?
คือมันเป็นเป้าหมายดีมันกว่าครับ เป็นสิ่งที่เราทั้งคู่ก็คุยกันไว้ เมื่อเราพร้อมก็ค่อยก้าวไปถึงจุดนั้นครับ
กดดันไหมหลายคนรอดูงานแต่งงานของเราเยอะ ใกล้เข้ามาหรือยัง?
ครับ ถ้าให้พูดว่างานจะออกมายังไงผมยังคิดไม่ถึงจุดนั้น เพราะสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งใหม่สำหรับผมเหมือนกัน แค่รู้สึกดีใจว่าสิ่งที่เราอาจไม่เคยคิดว่าจะมีในชีวิตเรา คราวนี้ผมขอเป็นทีละสเต็ปแล้วกันเนอะ แต่ว่าจะออกมาแบบไหนผมนึกไม่ออก ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้
แต่มีความคิดแว้บ ๆว่าอยากมีโมเม้นท์นั้นใช่ไหม?
เปล่าหรอกครับ ผมรู้สึกว่าพอมาถึงจุดนึงในชีวิต คือการที่เราจะร่วมใช้อนาคตกับใครสักคน มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผม เพราะเราเองก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะเดินคู่กันไปในอนาคตครับ
อะไรคือจุดที่เราจะแต่งงาน?
มันก็คงมีหลายนัยยะ คำว่าพร้อมมันเป็นสิ่งที่ผมนิยามคนเดียวไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่เราต้องคุยกันสองคน คราวนี้มันก็มีเรื่องของครอบครัว เรื่องของสังคมที่เราต้องคำนึงถึงด้วย ก็ต้องคุยหมดทุกอย่าง พอเมื่อพร้อมจริง ๆ เราก็จะรู้ว่าเราพร้อม
ถือเป็นคนแรกเลยไหมที่นึกถึงภาพแต่งงานกับเขา?
ใช่ครับ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่ามีภาพนี้ที่มันจะเกิดขึ้นได้จริง
ไม่รู้อ่ะ มันคือทุกอย่าง ถ้าจะให้มาจำกัดความว่าความหมายของความรักแบบสั้น ๆ คม ๆ ให้ทุกคนได้ยินที่นี่ ก็อาจจะยากไปนิดนึงครับ คงต้องนั่งคุยเป็นชั่วโมงอ่าครับ(ยิ้ม) มีเวลามั้ยหล่ะเดี๋ยวนั่งเล่าให้ฟัง(หัวเราะ)
ช่วงนี้เราดูหวานๆ?
ครับ (ยิ้ม) ไม่รู้จะพูดยังไง ทักมาเราก็เขิน ไม่ค่อยได้มีมุมอย่างนี้เกิดขึ้นกับผม ก็รู้สึกดีครับ
เราคิดว่าเราเป็ฯคนโรแมนติกไหม?
ผมว่ามันเป็นเรื่องของ มันเหมือนเมื่อเราเห็นภาพว่าเราจะเดินหน้าไปกับใครสักคนเนี่ย มันเกิดความอุ่นใจอะไรบางอย่าง ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงเข้าใจความรู้สึกของผมตอนที่ผมบอกว่าเคยตื่นขึ้นมาแล้วเรารู้สึกเว้งว้าง เหมือนเราไม่รู้ว่าทำอะไรไปเพื่ออะไร ใช้ชีวิตไปเพื่ออะไร และบางทีเราเจอสิ่งเหล่านั้นเนี่ย แล้วมันเหมือนพบทิศทางอะไรบางอย่าง ความเว้งว้างนั้นมันก็หายไป แล้วก็ถูกทดแทนด้วยความรักมั้ง ประมาณนั้นแหละ
สำหรับเรานั่นคือการเจอเขา?
ก็คงใช่ครับ
เขารู้ไหมว่าเรารู้สึกกับเขาขนาดนี้?
ก็หวังว่านะ
เคยบอกเขาไหม?
ก็หวังว่านะ ต้องรู้สิ
ปีหน้าลุ้นได้ไหม?
ก็ไม่รู้ครับ คือมันทีหลายอย่างที่เราต้องคุยกันครับ เอาเป็นว่าได้มีการคุยกันถึงเวลา แต่ว่าตรงนี้ผมขออนุญาตยังไม่แชร์เพราะมันเป็นเรื่องข้างใน มันมีหลายอย่างที่เราต้องคุยกันข้างใน
ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์ใช่ไหม?
ผมหรอครับ ไม่น่าจะฟ้าแล่บ คือถ้าเป็นสไตล์ผม ผมค่อนข้างชอบทำทุกอย่างค่อนข้างละเอียดครับ เพราะว่ามันคือทั้งชีวิตใช่ไหมครับ ยิ่งในสมัยนี้คนเขาแต่งงานกันง่าย เลิกกันง่าย ผมก็รู้สึกว่าจะทั้งทีก็เอาให้มันทั้งชีวิตดีกว่าไหม
เรื่องลูกยังเหมือนเดิมไหม?
ก็เหมือนเดิมครับ คือพูดว่ายังไงดี ทั้งผมกับณัฐไม่ได้คิดว่าคำว่าครอบครัวจำเป็นจะต้องมีลูก ซึ่งทางครอบครัวผมทางครอบครัวเขาค่อนข้างให้พื้นที่สำหรับผมและเขาใช้ชีวิตอย่างที่เราต้องการกัน แต่ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตผมก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีผมอยู่กับเพื่อนเพื่อนเขาก็แบบอยากเป็นพ่อมากเลยใช่ไหม เห็นเราอยู่เด็กแล้ว ทำไมเราอินกับเด็กมาก เราก็ไม่รู้ตัว อาจจะอยู่ในจิตใต้สำนึกลึกๆมั้ย แต่ก็ไม่ได้คิด ไม่ได้อยู่ในแผน