กองสลากฯ จ่อพิมพ์หวยแบบคละ แก้ปัญหาขายเกินราคา ปิดตำนานคนดวงเฮงถูกรางวัลที่ 1 รับเงินก้อนโต
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติให้ปรับหลักเกณฑ์การพิมพ์และจำหน่ายสลาก เริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธ.ค.63 เป็นต้นไป โดยให้ปรับระบบการพิมพ์ลอตเตอรี่เป็นแบบคละเลขทั้งหมด 100 ล้านใบ จากเดิมที่มีการพิมพ์แบบเรียงเลข 33 ล้านใบ และแบบไม่เรียงเลข 67 ล้านใบ เพื่อแก้ปัญหาสลากรวมชุด และปัญหาขายสลากฯ เกินราคา เนื่องจากที่ผ่านพบว่าต้นตอของการทำสลากรวมชุด มาจากการพิมพ์ลอตเตอรี่แบบเรียงเลขในกลุ่มโควตา 33 ล้านใบ นอกจากนี้ที่ประชุมให้ปรับรูปแบบการจำหน่ายสลากฯ ทั้งผู้ค้าแบบโควตา และผู้มีสิทธิซื้อจองใหม่ จากเดิมกลุ่มโควตาจะได้รับแบบใบเดียว 5 เล่ม และผู้ซื้อจองได้รับสลากชุด 2 ใบ 4 เล่ม และสลากใบเดียว 1 เล่ม เลี่ยนเป็นรับสลากชุด 2 ใบ 2 เล่ม และสลากใบเดียว 3 เล่ม ซึ่งมั่นใจว่าหลังจากนี้จะทำให้เกิดการรวมชุดได้ยากขึ้น จะเหลือขายแค่ชุด 2 ใบ หรือรวมชุดเต็มที่ไม่เกิน 5 ใบเท่านั้น
นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า สำหรับการปรับระบบการพิมพ์ลอตเตอรี่เป็นแบบคละ จะไม่มีคนถูกรางวัลที่ 1 ได้รางวัลก้อนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น 60 ล้านบาทหรือ 90 ล้านบาทอีกต่อไป แต่จะช่วยให้รางวัลที่ 1 กระจายไปในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการเปิดรับขึ้นทะเบียนรับผู้ค้าสลากฯ รายใหม่เข้าสู่ระบบซื้อ-จองเพิ่มเติม หลังจากไม่ได้มีการเปิดรับมาตั้งแต่ปี 2557 เบื้องต้นได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และตำรวจท้องที่ ให้ช่วยคัดกรองผู้ค้าสลากฯ ตัวจริง ก่อนเปิดให้มีการขึ้นทะเบียน ขระเดียวกันจะมีการนำสลากที่เหลือจากการซื้อจองวันแรกงวดละประมาณ 10,000 ราย ไปให้ผู้ค้าใหม่ซื้อไปขายต่อในราคาต้นทุนใบ 70.40 บาทเท่านั้น จึงมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาหวยราคาแพงได้อย่างเป็นรูปธรรม