การรณรงค์หาเสียง ก่อนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2020 ในวันที่ 3 พ.ย.เข้มข้นดุเดือดขึ้นตามลำดับ ล่าสุด 2 ผู้สมัครตัวเต็งคือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน ของพรรคเดโมแครต ซึ่งลงพื้นที่แถบมิดเวสต์ ต่างพยายามโจมตีสิ่งที่คิดว่าเป็นจุดอ่อนของอีกฝ่าย โดยไบเดนจวกทรัมป์ล้มเหลวในการบริหารจัดการวิกฤติไวรัสโควิด-19 ขณะที่ทรัมป์โจมต่ความอ่อนด้อยด้านการค้าของไบเดน
หลังจากจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ใกล้ผ่านหลัก 2 แสนคน ไบเดน กล่าวบนเวทีหาเสียง ที่โรงงานผลิตอลูมินั่ม ในเมืองแมนิโทว็อค รัฐวิสคอนซิน เมื่อวันจันทร์ ว่า ทรัมป์ถึงกับตื่นตระหนก “ทำอะไรไม่เป็น” เมื่อเผชิญกับความท้าทายมหาศาล จากวิกฤติด้านสาธารณสุข และขาดความเป็นผู้นำ ที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา
ที่รัฐโอไฮโอ ทรัมป์กล่าวบนเวทีหาเสียงว่า ในอดีตไบเดนเคยสนับสนุนข้อตกลงการค้าเสรีหลายรายการ รวมถึงข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟตา ซึ่งทำให้คนงานรัฐโอไฮโอตกงานเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของภูมิภาคมิดเวสต์ ดังนั้นไบเดนจึงไม่ควรขอคะแนนเสียง แต่ควรจะขอโทษชาวมิดเวสต์
ทางด้านผลโพลสำรวจล่าสุด คะแนนนิยมของไบเดนเหนือกว่าทรัมป์หลายเปอร์เซ็นต์ในรัฐวิสคอนซิน แต่ทรัมป์เหนือกว่าไบเดนในเขตรัฐโอไฮโอ ที่เขาเคยเอาชนะนางฮิลลารี คลินตัว ผู้สมัครตัวแทนของพรรคเดโมแครต ในเขตรัฐนี้ 8 %ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559
ไบเดนมีโปรแกรมเดินสายหาเสียงต่อในวันจันทร์ ในเขตรัฐจอร์เจียและรัฐไอโอวา ซึ่งเป็นอีก 2 รัฐฐานเสียงหลัก ที่ทรัมป์ เอาชนะนางคลินตันได้อย่างขาดลอย.