เมื่อวันอาทิตย์ (20 ก.ย.) กระทรวงสาธารณสุขของอิรักรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มขึ้น 3,438 ราย ขณะหน่วยงานสาธารณสุขสั่งห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ สืบเนื่องจากมีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ปรากฏในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน
ฮัสซัน อัล-ทามีมี รัฐมนตรีกระทรวงฯ แถลงข่าวว่า “คณะกรรมการระดับสูงด้านสุขภาพและความปลอดภัยแห่งชาติตัดสินใจไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติ นอกจากคณะทูต เดินทางเข้าอิรักในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้” ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าว “เป็นผลจากมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน”
สำหรับการเตรียมพิธีอัรบาอีน (Arbaeen) ของนิกายชีอะห์ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนั้น อัล-ทามีมีกล่าวว่า “กระทรวงฯ เตรียมแผนบูรณาการเอาไว้แล้ว โดยประสานงานกับสถาบันสุขภาพในทุกจังหวัดของอิรัก”
“เราหวังว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลังจากพิธีอัรบาอีน” อัล-ทามีมีกล่าวเสริม โดยรัฐมนตรีกระทรวงฯ ออกมาให้ความเห็นข้างต้นหลังจากมีรายงานผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 3,438 ราย ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในประเทศสะสมอยู่ที่ 319,035 ราย
กระทรวงฯ ยังยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่ม 64 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 8,555 ราย ขณะเดียวกันมีผู้ป่วยหายดีเพิ่มอีก 4,052 ราย ส่งให้จำนวนผู้ป่วยหายดีสะสมอยู่ที่ 253,591 ราย
อนึ่ง อิรักดำเนินสารพัดมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายแรกปรากฏในประเทศ ด้านจีนให้ความช่วยเหลืออิรักในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาโดยตลอด
ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. ถึง 26 เม.ย. คณะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของจีน 7 คน ใช้เวลา 50 วันในอิรักเพื่อควบคุมโรคระบาด ซึ่งระหว่างนั้นพวกเขาได้ช่วยสร้างห้องปฏิบัติการตรวจปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส ติดตั้งเครื่องซีทีสแกนขั้นสูงในแบกแดด และมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์แล้ว 3 ชุด