ผบ.ตร.ปัดใช้"แผนกรกฎ 52"สยบม็อบชุมนุมใหญ่

2020-09-10 15:40:02

ผบ.ตร.ปัดใช้"แผนกรกฎ 52"สยบม็อบชุมนุมใหญ่

Advertisement

ผบ.ตร. ปัดใช้แผน "กรกฎ 52" สยบ "ม็อบ" ชุมนุมใหญ่ แย้มรู้ตัวคนชักใย พร้อมเน้นย้ำ จนท.ให้ใช้ความอดทน

เมื่อวันที่ 10 ก.ย.63 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงต่อสื่อมวลชนถึงการเตรียมรับมือการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย. โดยกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ชื่อ "19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร" ว่า เบื้องต้นได้รับฟังจากการข่าวจึงทราบว่าจะมีการชุมนุมในพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เท่านั้น ส่วนที่แกนนำระบุว่า หากมีคนมาร่วมจำนวนมากจะเปลี่ยนไปใช้พื้นที่สนามหลวงนั้น คงต้องดูสถานการณ์ก่อน แต่เบื้องต้นแจ้งเพียงว่าจะชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังนั้นหากมีการเคลื่อนก็ต้องคุยกันหน้างานอีกครั้ง ไม่สามารถบอกอะไรได้ตอนนี้ เพราะต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ต้องดูว่ามาแล้วปลอดภัยหรือไม่ และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำผู้ชุมนุมได้ยื่นขออนุญาตใช้พื้นที่แล้วหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาต แต่สามารถยื่นขอภายใน 24 ชั่วโมงได้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รวม.กลาโหม ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ แต่กำชับให้เจ้าหน้าที่อดทน และอย่าใช้ความรุนแรง เพราะนายกฯ เป็นห่วงเรื่องการปะทะ หรือยื้อยุดฉุดกระชาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่สร้างเงื่อนไขเพราะระวังตัวอยู่แล้ว ส่วนจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่นั้น อยู่ที่การพูดคุยกัน ซึ่งทุกม็อบจะมีแกนนำคอยระสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้ว ขณะเดียวกันยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องมือที่สาม จึงเตรียมป้องกันอยู่แล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้ง แต่จะทำหน้าที่คอนช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเต็มที่ ส่วนกรณที่มีกระแสข่าวเรื่องนักการเมืองอยู่เบื้องหลังนั้น เรื่องนี้ขอไม่เปิดเผย แต่รู้ตัวละครอยู่แล้วใครทำอะไร และแบ่งกันอย่างไร จึงขอฝากทุกม็อบให้อยู่ในกรอบของกฎหมายจะดีที่สุด




ส่วนกรณีที่แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่า หากผู้ชุมนุมเกิน 5 หมื่นคนจะขยับไปใช้พื้นที่สนามหลวง ผบ.ตร. กล่าวว่า จะกี่คน ถ้าตั้งใจขยับก็ขยับ แต่ขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย ตนบอกทุกครั้ง กฎหมายหากนับ 1 ก็ต้องไป 2,3,4 ดังนั้นไม่อยากเห็นน้องๆ อยู่ในสถานการณ์แบบแกนนำในอดีตที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล จึงฝากไว้เป็นข้อคิด เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมาย ส่วนที่ขณะนี้ยังมีการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะประสานให้ทหารมาร่วมรักษาความปลอดภัยด้วยหรือไม่ ผบ.ตร. ยืนยันว่า ทหารไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของตำรวจอย่างเดียว แต่เชื่อว่าถ้าพูดคุยกันเข้าใจก็ไม่ต้องใช้ตำรวจจำนวนมาก ซึ่งจริงๆ แล้วตนไม่อยากใช้ แต่มีความจำเป็นต้องดูแลความปลอดภัยให้กับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ได้ประเมินหรือไม่ว่าจะมีแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมจากทั่วประเทศมาเข้าร่วม ผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นแนวคิดที่จะสามารถรวบรวมชักจูงใครมาก็ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีฐานข้อมูลในส่วนของต่างจังหวัดอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้ใช้แผนกรกฎ 52 เพราะไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรง สอดคล้องกับนายกฯ ที่เน้นย้ำเจ้าหน้าให้ใช้ความอดทน จึงไม่มีใช้ชื่อแผนอะไรทั้งสิ้น คงเป็นเพียงดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมตามปกติ เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการวัดกำลังก่อนเกษียณอายุราชการไปสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ ผบ.ตร. ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ถือเป็นงานปกติของตนอยู่แล้ว และวันชุมนุมตนก็จะอยู่ในพื้นที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยด้วยตนเอง