สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่รายงานข้อมูลสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รวบรวมจากแต่ละประเทศ ล่าสุด ผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก เพิ่มเป็นมากกว่า 900,000 รายแล้วเมื่อวันพุธ และติดเชื้ออีกมากกว่า 27.7 ล้านราย โดยสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อสูงสุดในโลก โดยผู้เสียชีวิตทะลุ 190,000 ราย และติดเชื้อเกิน 6.3 ล้านราย ตามมาด้วยบราซิล เป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 2 มากกว่า 127,000 ราย และอินเดีย เกือบ 74,000 ราย
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อินเดียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อวันเดียวอยู่ที่ 90,802 ราย ทำสถิติสูงสุดในวันเดียว ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ อยู่ที่มากกว่า 4.3 ราย ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 2 รองจากสหรัฐ และพุ่งแซงหน้าบราซิล ซึ่งมีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 4.1 ราย โดยศูนย์กลางของการระบาดย้ายมาอยู่ในอินเดียแล้ว ซึ่งยังไม่มีแนวโน้มว่าจะถึงจุดสูงสุดในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ของโลก ขณะที่ อินเดียอนุญาตให้เปิดบาร์อีกครั้งเมื่อวันพุธ เป็นครั้งแรกตั้งแต่บังคับใช้มาตรการล็อคดาวน์ นอกจากนี้ อินเดียยังมีผู้ติดเชื้อในแต่ละวันสูงกว่าทุกประเทศ ตั้แต่เริ่มต้นปี อีกทั้งยังทำสถิติผู้เสียชีวิตมากกว่าประเทศอื่น ๆ เฉลี่ย มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 รายต่อวันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ทวีปอเมริกายังคงมีผู้เสียชีวิตมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั่วโลก เม็กซิโก, เปรู, โคลอมเบีย, ชิลี และเอกวาดอร์ มีอัตราผู้เสียชีวิตในระดับสูงสุด
เฉลี่ยแล้ว จะมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัส โควิด-19 มากกว่า 5,600 รายต่อวัน อัตราการเสียชีวิต ยังคงพุ่งสูงต่อเนื่องใช้เวลา 18 วันทะยานจาก 800,000 ราย เป็น 900,000 ราย ก่อนหน้านี้ ใช้เวลา 17 วัน ผู้ติดเชื้อเพิ่มจาก 700,000 ราย เป็น 800,000 ราย
อัตราการเสียชีวิตในอินเดีย อยู่ที่ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่บราซิลและสหรัฐ อยู่ที่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราเฉลี่ยทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ทั้งอัตราผู้เสียชีวิตและติดเชื้อในสหรัฐ ลดลงจากระดับสูงสุดในเดือนกรกฎาคม ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ แต่สถานการณ์ย่ำแย่ลงจากการเปิดเรียน เนื่องจากนักเรียนติดเชื้อมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ผู้ติดเชื้อก็เพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศของยุโรป มีสถิติติดเชื้อรายใหม่วันเดียวสูงสุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ส่งสัญญาณการระบาดรอบ 2 ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 3,000 รายในสหราชอาณาจักรเมื่อสุดสัปดาห์ สูงสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม กระตุ้นให้ทางรัฐบาลต้องประกาศห้ามการชุมนุมเกิน 6 คน เพราะนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน พยายามที่จะควบคุมไม่ให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สหราชอาณจักร ซึ่งมีผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก อยู่ที่ 41,594 ราย สั่งกักตัว 14 วันสำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากไปพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรป เช่นหมู่เกาะต่าง ๆ ของกรีซ, ฝรั่งเศส, โครเอเชีย และสเปน ซึ่งประสบปัญหาการระบาดรุนแรงอีกรอบเช่นเดียวกัน
สเปน เป็นประเทศแรกในยุโรปตะวันตก ที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 500,000 ราย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และขณะนี้ ผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 552,000 ราย
ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ในภูมิภาคลาตินอเมริกา พุ่งผ่าน 300,000 รายแล้วเมื่อวันพุธ ซึ่งยังไม่มีแนวโน้มว่า สถานการณ์ในลาตินอเมริกา ที่ระบาดรุนแรงที่สุดในโลก จะคลี่คลายลงโดยเร็ว โดยลาตินอเมริกามีผู้เสียชีวิตพุ่งสูงต่อเนื่องหลังจากบราซิล ซึ่งมีผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในภูมิภาค รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีก 1,075 ราย ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมทั่วภูมิภาค อยู่ที่ 128,539 ราย
ประเทศต่าง ๆ ทั่วลาตินอเมริกา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 8 ล้านราย กำลังดิ้นรนต่อสู้เพื่อผ่อนคลายภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง จากมาตรการที่แต่ละประเทศยังคับใช้เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส โดยลาตินอเมริกา มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 2,811 ราย ในช่วง 7 วันจนถึงวันอังคารที่ผ่านมา เม็กซิโก, เปรู และโคลอมเบีย มีผู้ติดเชื้อสูงสุด รองจากบราซิล
เฉพาะในอเมริกาเหนือ จำนวนผู้เสียชีวิตขยับเกิน 200,000 รายแล้ว ซึ่ง 190,000 ราย อยู่ในสหรัฐ ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในโลก ส่วนสหภาพยุโรป อยู่ที่ประมาณ 211,000 ราย
ข้อมูลของรอยเตอร์ ระบุว่า ผู้เสียชีวิต 100,000 รายล่าสุด ใช้เวลาเพียง 39 วันเท่านั้น
มีรายงานผู้เสียชีวิตรายแรกจากโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 มกราคมในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน หลังพบไวรัสระบาดครั้งแรกในเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว