ไฟป่าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ โหมรุนแรงมากขึ้นจากกระแสลมแรงและอุณหภูมิที่พุ่งสูงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั่วภาคตะวันตกของสหรัฐเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เผาทำลายเมืองมัลเดน ของรัฐวอชิงตัน และกำลังลุกลามเข้าใกล้หลายชุมชนในรัฐออริกอนและแคลิฟอร์เนีย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และพนักงานป้องกันภัยฉุกเฉิน ค้นหาประชาชนในเมืองมัลเดน ห่างจากซีแอตเทิล ไปทางตะวันออกประมาณ 480 กิโลเมตรในวันอังคาร หนึ่งวันหลังจากไฟป่าเผาผลาญอาคารบ้านเรือนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งสำนักงานดับเพลิง, สถานีตำรวจ, หอประชุมเมืองและห้องสมุดด้วย
เบร็ตต์ ไมเยอร์ส เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองวิทแมน เคาน์ตี ซึ่งมีประชากร 200-300 คน กล่าวว่า ขนาดของภัยพิบัติ ยังไม่สามารถประเมินได้ในตอนนี้ เขาก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้ทุกคนผ่านพ้นเวลานี้ไปให้ได้
ทั้งนี้ ไฟป่าที่เผาทำลายเมืองมัลเดน ปะทุขึ้นประมาณช่วงเที่ยงของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีกระแสลมแรงช่วยทำให้ไฟโหมหนักยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องเดินเคาะประตูบ้านแต่ละหลังเพื่อกำชับและสั่งให้ประชาชนอพยพ ก่อนไฟป่ามาถึง ซึ่งไฟป่าอาจใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้นในการลุกลามถึงเมือง
ไฟป่านี้ เป็นหนึ่งในไฟป่าขนาดใหญ่หลายสิบจุดที่กำลังไหม้ลามในรัฐวอชิงตัน, ออริกอน และแคลิฟอร์เนีย ในช่วงวันแรงงานสุดสัปดาห์ เนื่องจากอุณหภูมิที่พุ่งสูง โดยอุณหภูมิในพื้นที่ตะวันกของซาน เฟอร์นันโด วัลเลย์ ในลอสแอนเจลีส สูงถึง 49 องศาเซลเซียส ส่วนในรัฐออริกอน หลายชุมชนถูกอพยพ และวันแรกของการเปิดเรียน ต้องเลื่อนออกไป
ไฟป่าที่เผาผลาญอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เปลี่ยนท้องฟ้าเหนือเมืองซาน ฟรานซิสโก กลายเป็นสีส้มน่าสะพรึงกลัวเมื่อวันพุธ รถยนต์จำนวนมากต้องเปิดไฟหน้ารถในเวลากลางวันเนื่องจากหมอกควันจากไฟป่า ทำให้ทัศนวิสัยเลวร้าย โดยไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 2 ล้านเอเคอร์ หรือประมาณ 5 ล้านไร่ ทำลายทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือนจำนวนมาก และบีบให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพ นอกจากนี้ ท้องฟ้าเหนือเมืองออริกอน ก็กลายสภาพเป็นสีแดงน่ากลัว จากไฟป่าที่กำลังรุนแรง