ชาวสวนผวา! รอยเท้าสัตว์ปริศนา

2020-09-09 15:00:05

ชาวสวนผวา!  รอยเท้าสัตว์ปริศนา

Advertisement

ชาวสวนผวาพบรอยเท้าสัตว์ปริศนาทำลายต้นกล้วยเป็นแถบปืนหลังคา

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Taylor Sri ได้เผยแพร่เหตุการณ์ระทึกพบสัตว์ไม่ทราบชนิดปีนบนหลังคาบ้านเสียงดังสนั่น และสภาพต้นกล้วยในสวนมีรอยเล็บ และหักโค่นไปหลายต้น นอกจากนี้ยังพบรอยกัดเปลือกไม้ที่ต้นส้มโอและลิ้นจี่ สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 2 ต.บางสะแก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหารตามสั่ง ได้มีกลุ่มชาวบ้านจับกลุ่มพูดคุยถึงสัตว์ปริศนาที่สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Taylor Sri ซึ่งขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง ได้พาผู้สื่อข่าวสำรวจภายในสวนกล้วย โดยมีร่องรอยของการกัดแทะ และข่วนที่ต้นกล้วยจนหักโค่นไปเกือบ 10 ต้น พร้อมรอยเท้าสัตว์ ภายในสวนส้มโอ นอกจากนี้ยังพบรอยเล็บที่ต้นลิ้นจี่ด้วย




ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Taylor Sri กล่าวว่า เมื่อ 2 คืนก่อน เวลาประมาณ 2 ทุ่ม มีสัตว์ปริศนาปีนบนหลังคาบ้าน จากนั้นก็หายไปกลับมาอีกครั้งประมาณ 3-4 ทุ่ม ตนก็ไม่ได้ออกมาดู กระทั่งช่วงเช้ายายที่บ้านออกไปทำสวนก็พบว่าต้นกล้วยหักโค่นไปเกือบ 10 ต้น คืนต่อมาประมาณ 2 ทุ่มก็ได้ยินเสียงเหมือนสัตว์เดินบนหลังคาบ้านซึ่งเป็นสังกะสี เป็นรอยยุบ พอวิ่งออกมาดูก็ไม่พบตัว และในคืนเดียวกันเวลาประมาณ 3 ทุ่มและตี 2 ก็มาอีกสุนัขข้างบ้านก็เห่าแล้วก็ถอยเหมือนกลัวๆ ตนกลัวมากจึงเข้านอน เช้ารุ่งขึ้นก็แจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้านเข้ามาช่วยดูในสวน เบื้องต้นพบรอยเท้าสัตว์รอยต้นไม้ล้ม กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาเดิม 2 ทุ่ม ก็มาเหมือนเดิม แต่ไม่เจอตัวพบแต่ร่องรอยต้นไม้หัก ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นลิง แต่ลิงก็ไม่น่าจะออกหากินเวลากลางคืน และในส่วนก็มีผลไม้เยอะไม่น่าจะเข้ามาในบริเวณบ้าน แต่กรณีนี้กลับพบร่องรอยการฉีกตะกรุยต้นกล้วย และมีกลิ่นเหม็นคาว

ต่อมานายมนัส บุญพยุง กำนันตำบลบางสะแก ประสานนายศิวณัฐ สี่เหรียญน้อย ผู้ช่วยหัวหน้าเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์ นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสวนดังกล่าว ซึ่งต้องเดินเท้าเข้าไปในสวนประมาณ 500 เมตร พบว่าร่องรอยต้นกล้วยฉีกหักโค่น และรอยเท้าเป็นจำนวนมาก



นายศิวณัฐ กล่าวว่า จากการตรวจสอบรอยเท้า และร่องรอยการฉีกต้นกล้วยเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นหมีควาย น้ำหนักไม่เกิน 100 กิโลกรัม ซึ่งจากนี้จะประสานไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการดักจับไปดูแลต่อไป เนื่องจากเป็นสัตว์อันตราย จึงฝากเจ้าของสัตว์ตัวนี้ให้มารับกลับไปเนื่องจากเขาจะคุ้นชินกับเจ้าของมากกว่าชาวบ้าน อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ขอให้ชาวบ้านงดเข้าทำสวนเพราะหากเจอสัตว์ตัวนี้แบบจังๆก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

นายมนัส บุญพยุง กำนันตำบลบางสะแก ในช่วงนี้จะประสานผู้นำท้องที่ และอาสาสมัครเฉพาะกิจสมุทรสงคราม และหน่วยกู้ภัยสรรพราเชนสมุทรสงคราม เข้ามาดูแลกันพื้นที่ไม่ให้ชาวบ้านหรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ จนกว่าเจ้าหน้าที่จะจับสัตว์ชนิดนี้ออกไปก่อน