ผวจ.ขอนแก่นสั่งจับเป็นหมีควาย ขณะที่กรมอุทยานฯ ส่งกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย พร้อมทีมยิงยาสลบ ปิดล้อมกระชับพื้นที่กันชาวบ้านห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 9 ก.ย. ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบริบูรณ์ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น นายอนันต์ ปิ่นน้อย ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่8(ขอนแก่น) กรมอุทยาน เป็นประธานการประชุม การทำงานไล่ล่าปราบหมีควายที่กำลังออกมาหาอาหารกินและทำร้ายชาวบ้าน บาดเจ็บไปเมื่อวันที่ 8 ก.ย. จำนวน 5 รายในพื้นที่ ต.สีชมพูและ ต.บริบูรณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงจำนวน 200 คน
นายอนันต์ กล่าวในที่ประชุมว่า ผู้บังคับบัญชามีความเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้แกปฏิบัติงาน วันนี้จึงจัดกำลังป้องกันไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่ออกนอกบ้านและห้ามเข้าไปในป่าเด็ดขาด จากนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเขาในพื้นที่ กระจายกำลังกันออกไปทั้ง 4 ทิศ จากนั้นให้ทีมโดรนจำนวน 4 ชุด นำโดรนขึ้นบิน เพื่อหาพิกัด และความเคลื่อนไหวของหมี เมื่อได้พิกัดที่แน่ชัด จึงจะส่งทีมยิงยาสลบ ซึ่งเป็นแพทย์ของกรมอุทยานที่มาจาก สถานีเพราะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่8(ขอนแก่น)รวม 3 ทีม เข้าไปยิงยาสลบ เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ การจับหมีควายก็จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า หากการหาพิกัดและยิงยาสลบได้เรียบร้อยร้อย ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่จะเข้าไปในพื้นที่ เพื่อนำร่างหมี มาใส่รถที่มีกรงสัตว์ เพื่อนำไปตรวจร่างกายและตรวจสอบว่า หมีควายตัวดังกล่าวนั้น เป็นหมีควายในป่าธรรมชาติหรือหมีที่มาจากการลักลอบเลี้ยงแล้วหลุดออกมา ซึ่งข้อมูลล่าสุดยังพบว่าหมีตัวดังกล่าว ยังอยู่ในป่าอ้อยในพื้นที่บ้านเทพประทานและบ้านเทพชมพู ต.บริบูรณ์ จึงต้องนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อจับหมีตัวดังกล่าวให้ได้
ทางด้านนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การตรวจจับหมีควายในครั้งนี้ มีความผิดพลาด จนชาวบ้านถูกหมีทำร้ายบาดเจ็บ 4 ราย และหญิงท้องถูกหมีวิ่งชนจนเจ็บเล็กน้อยอีก 1 ราย ซึ่งขณะนี้ทุกคนปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของความช่วยเหลือคนเจ็บนั้น ในเบื้องต้นต้องให้แพทย์ทำการรักษาตามขั้นตอน ส่วนเรื่องของความปลอดภัยนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและหน่วยงานในพื้นที่ทำการห้ามประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่ที่กำลังค้นหาเด็ดขาด และห้ามใช้ปืนยิงหรือทำร้ายหมี และต้องเป็นการจับเป็นเท่านั้น เพื่อนำหมีกลับคืนสู่ธรรมชาติ โดยได้แนะนำให้ชุดปฏิบัติการที่ดูแลเรื่องความปลอดภัย ใช้ประทัดจุดส่งเสียงให้หมีกลัวและไม่ทำร้ายใครได้อีก โดยให้มีการจัดกำลังแบ่งออกเป็นชุดกระจายทั้ง 4 ทิศ เพื่อจับเป็นหมีตัวดังกล่าวให้ได้โดยเร็วที่สุด และต้องจับเป็นไม่มีคนบาดเจ็บอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เตรียมใช้ลูกดอกยาสลบ เพื่อจับหมีควายที่ทำร้ายชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เบื้องต้นคาดขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ปล่อยลงจากรถเมื่อเจอด่านตรวจ ขณะลักลอบส่งไปขายต่างประเทศผ่านชายแดนจังหวัดเลยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหมีควายตัวดังกล่าวมีรอยเท้ายาวประมาณ 10 เซนติเมตร ซึ่งเป็นขนาดรอยเท้าของหมีวัยรุ่นที่อายุยังไม่มาก น้ำหนักน่าจะอยู่ที่ 150 กิโลกรัม เบื้องต้นคาดว่าเป็นหมีที่ขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ลักลอบลำเลียงส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านทางชายแดนจังหวัดเลยหรือหนองคาย แต่มาเจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ จึงได้ปล่อยหมีลงจากรถ ในพื้นที่รอยต่ออำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น กับอำเภอภูกระดึงจังหวัดเลย เมื่อประมาณ 3 ถึง 4 วัน ที่ผ่านมา ทำให้หมีหิวโซจนต้องออกตระเวนหากิน เมื่อพบชาวบ้านจำนวนมากที่พยายามจะจับตัว จึงตกใจและทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บดังกล่าว