เปิดไทม์ไลน์นักโทษติดโควิด-19

2020-09-03 19:20:16

เปิดไทม์ไลน์นักโทษติดโควิด-19

Advertisement

เปิดไทม์ไลน์นักโทษชายติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศรายแรกในรอบ 100 วัน  สั่งกักผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 63 ราย ติดตามคนในครอบครัว 7 คน สั่งปิดสถานบันเทิง 3 แห่ง ย่านพระราม 3 พระราม 5 และถนนข้าวสาร เป็นเวลา 3 วัน

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่กรมควบคุมโรค นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวกรณีพบผู้ต้องขังชายติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  ว่า ผู้ต้องขังรายนี้มีการตรวจเชื้อเป็นบวก ซึ่งเป็นการตรวจเชื้อตามกระบวนการของเรือนจำอยู่แล้ว และมีการแยกกักกันตัวสำหรับผู้ต้องขังใหม่ ตามแนวทางควบคุมป้องกันโรค ไม่ได้อยู่รวมกับนักโทษอื่นๆ สรุปเป็นการติดเชื้อภายในประเทศรายแรกหลังจากประเทศไทยไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อภายในประเทศมา 100 วัน เพราะจากการสอบสวนโรคไม่ได้มีการเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนผู้เสี่ยงสูง และผู้มีความเสี่ยงต่ำ มีมาตรการในการดูแลกลุ่มดังกล่าวแล้ว ส่วนประชาชนที่กังวลขอให้โทรมาสอบถามสายด่วน 1422 ขอย้ำว่า พี่น้องประชาชนสามารถไปท่องเที่ยวในวันหยุดยาวได้ตามปกติ แต่ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคตามเดิม


ด้าน พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.สำนักระบาดวิทยา กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่เป็นผู้ติดเชื้อรายนี้ทราบข้อมูลมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. โดยมีผลการตรวจจากเรือนจำ และทางกรมได้ทำการตรวจสอบซ้ำ โดยเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจส่งห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง ซึ่งพบว่ามีการติดเชื้อจริง ขณะนี้การสอบสวนโรคยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่ทราบว่ามีการติดเชื้อมาจากที่ไหน ดังนั้นเบื้องต้นจะตรวจสอบย้อนหลังกลับไป 14 วัน ตามสถานที่ที่ผู้ป่วยรายนี้มีการเดินทางไป หากยังไม่พบก็ขยายเวลาการตรวจสอบออกไปอีก

พญ.วลัยรัตน์  กล่าวต่อว่า ข้อมูลที่ได้ตอนนี้ มีการตรวจสอบบ้านพัก คือ  1.บ้านสวนธนพุทธบูชา บางมด กรุงเทพฯ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 7 คน ขณะนี้ติดตามตัวได้แล้ว 5 คน เหลืออีก 2 คน ซึ่งเดินทางไปต่างจังหวัดในเขตปริมณฑล ซึ่งคาดว่าวันที่ 4 ก.ย.นี้น่าจะติดตามตัวได้ 2.สถานที่ทำงานพบว่ามี 3 แห่ง คือ เป็นดีเจ “ร้าน 3 วัน 2 คืน” จำนวน 2 สาขา คือสาขาพระราม 3 ในวันจันทร์, พฤหัสบดี และวันเสาร์ ส่วนสาขาพระราม 5 ทำงานวันศุกร์ และวันอาทิตย์ ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 12 -26 ส.ค. 2563 นอกจากนี้ยังพบว่าทำงานที่ร้าน เฟิร์ส คาเฟ่ต์ ถนนข้าวสาร ในวันที่ 18 ส.ค. ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนหาผู้สัมผัสใกล้ชิด โดยผู้ที่เคยไปร้านเหล่านี้ขอให้สังเกตอาการตัวเองว่ามีไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสหรือไม่ หรือหากกังวลสามารถติดต่อเพื่อสอบถามและประมาณความเสี่ยงได้ และถ้าเป็นไปได้ขอให้หยุดการเดินทางไปในที่ชุมชน สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ด้วย

ผอ.สำนักระบาดวิทยา กล่าวอีกว่า  จากการสอบสวนยังพบว่าในวันที่ 26 ส.ค. ผู้ป่วยขับรถส่วนตัวไปศาลรัชดา และทัณฑ์สถานบำบัดพิเศษกลาง โดยอยู่บริเวณกักกัน ก่อนเข้าแดนปกติ ในเรือนจำ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงประมาณ 20 คน คือ ทนาย 1 คน เจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 คน นักโทษที่ตัดสินคดีร่วม 2 คน นักโทษร่วมรถโดยสาร 15 คน ทั้งนี้ผู้ป่วยรายนี้มีเสมหะในวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา อยู่ในบริเวณกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 36 คน คือผู้ต้องขังในห้องขังเดียวกัน 34 คน อาสาสมัครนักโทษ 2 คน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำมี 2 คน คือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมดตรวจไม่พบเชื้อ พบว่า มีกลุ่มเสี่ยงสูงประมาณ 20 คน เป็นทนายความ นักโทษผู้ร่วมรถโดยสาร นักโทษที่ร่วมคดี ส่วนนักโทษอื่นๆ 34 คนก็มีการ


นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ ต้องดูแลผู้ต้องขังกว่า 3 แสนคน ซึ่งไม่ได้ตรวจพบเจอจำนวนมาก โดยรายนี้เป็นรายที่ 2 พบเจอในสถานที่ต้องขังบางเขน ซึ่งมีผู้ต้องขังรวม 8 พันคนอย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทางราชทัณฑ์ ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการควบคุมป้องกันโรค โดยแยกกักผู้ต้องขังรายใหม่ 14 วัน ก่อนนำเข้าแดนปกติในเรือนจำ ซึ่งหลังจากตรวจเจอเชื้อในรายได้นี้ส่งไปรักษาที่รพ.ราชทัณฑ์ เป็นห้องระบายอากาศ ยังไม่ได้ให้ยาอะไรเนื่องจากยังไม่มีอาการ แต่หากมีอาการก็จะประสานขอส่งตัวมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูรต่อไป ส่วนผู้สัมผัสทั้งหมดก็ได้ส่งเข้าไปอยู่รพ.ทัณฑ์สถานเช่นเดียวกัน เป็นห้องระบายอากาศ 1 ห้อง ต่อ 1 คน จนกว่าจะครบระยะฟักตัวของโรค ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้คุมที่คุมนักโทษระหว่างกักกันตัวนั้นจะไม่ให้เข้าไปดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำปกติ ดังนั้นขอให้มั่นใจว่าจำนวนผู้ขัง 8,000 ราย ในเรือนจำปกติไม่มีความเสี่ยงจากผู้ติดเชื้อรายนี้แต่อย่างใด

ด้าน นพ.เมธีพจน์  ชาตะเมธีกุล ผอ.กองควบคุมโรคติดต่อสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งปิดสถานบันเทิงทั้ง 3 แห่ง แล้วเพื่อทำความสะอาด เป็นเวลา 3 วัน