"ลูกสาวบิ๊กตู่"ส่งทนายแจ้งจับกราวรูด"คนโพสต์เท็จ"

2020-09-02 15:00:44

"ลูกสาวบิ๊กตู่"ส่งทนายแจ้งจับกราวรูด"คนโพสต์เท็จ"

Advertisement

"ลูกสาวบิ๊กตู่" สุดทน ส่ง "ทนาย" แจ้งความดำเนินคดี "ชาวเน็ต" นับร้อยรายใส่ร้าย ลั่นเอาผิดให้ถึงที่สุด

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. นายอภิวัฒน์ ขันทอง ทนายความซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก นางสาวธัญญา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นำหลักฐานการโพสต์ทวิตเตอร์และสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมกว่า 100 บัญชี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวในความผิดฐานหมิ่นประมาท และความผิดตาม พ.ร.คอมพิวเตอร์ หลังกล่าวหาว่าบุตรสาวของนายกฯ ทั้ง 2 คนเปลี่ยนชื่อและนามสกุล เพื่อหนีคดีไปอยู่คฤหาสน์หรูในประเทศอังกฤษ แถมยังช่วยบิดาฟอกเงินซึ่งเป็นการทุจริต สร้างความเสียหายให้แก่ชื่อเสียง เกียรติยศ และวงศ์ตระกูลเป็นอย่างมาก

นายอภิวัฒน์ เปิดเผยว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในโลกโซเชียลไม่เป็นความจริง โดยลูกความทั้ง 2 ของตนไม่เคยเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล และยังพำนักอยู่ในประเทศไทย ไม่เคยไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และไม่เคยสอบตกตามที่ถูกใส่ร้ายแต่อย่างใด แถมยังเรียนได้เกียรตินิยมอันดับ 2 ด้วย ส่วนการโอนเงินจากบิดาเข้าบัญชีของบุตรสาวไม่ใช่บัญชีต่างประเทศ แต่เป็นบัญชีในประเทศไทยเพียงบัญชีเดียว โดยเคยโอนเงินเมื่อปี 2556 และเป็นเงินที่มาจากมรดกที่ดิน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.แล้ว จึงไม่ได้เป็นการฟอกเงิน และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับงานของบิดา ส่วนสาเหตุที่ลูกความไม่ปรากฎตัวตามสื่อโซเชียลมีเดีย เป็นเพราะลูกความไม่ต้องการใช้อภิสิทธิ์ และกลัวจะถูกนำชื่อหรือรูปไปแอบอ้าง เพราะเป็นลูกสาวของนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องการใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา




ส่วนกรณีนี้ที่เกิดขึ้นจะมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการสร้างความสับสนให้ประชาชนหลงเชื่อ และเกิดความเสียหายหรือไม่นั้น นายอภิวัฒน์ ระบุว่า ในฐานะทนายความไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการรวบรวมพยานหลักฐาน และพิสูจน์ทราบบัญชีรายชื่อทวิตเตอร์ รวมทั้งโซเชียลมีเดียต่างๆ กว่า 100 บัญชีที่นำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่นายกฯ ไม่ได้เน้นย้ำ หรือกำชับอะไรเป็นพิเศษ ตนเองมาในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายทั้ง 2 คน ซึ่งอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้มีการกล่าวหาจนเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อวงศ์ตระกูล จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยไม่มีการยอมความ ให้ไปว่ากันในชั้นศาล และไม่ต้องมาขอขมาใดๆ เพราะลูกความของตนต้องการให้เป็นบรรทัดฐาน เพื่อไม่ให้มีผู้ใดมาว่าร้ายใครในลักษณะนี้อีก

ด้าน พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีพยานหลักฐานเป็นจำนวนมาก จึงอาจประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่องการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยจะให้มาร่วมสืบสวนคดีด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่รู้สึกกดดันที่ผู้เสียหายเป็นถึงลูกสาวนายกฯ แต่เมื่อมีผู้เสียหายมาแจ้งความ พนักงานสอบสวนก็ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายตามปกติ