บริษัทผู้ให้บริการเว็บไซต์เครือข่ายสังคมยักษ์ใหญ่ “เฟซบุ๊ก” แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศจะขัดขวางผู้ใช้ และองค์กรสื่อ ในออสเตรเลีย ไม่ให้แบ่งปันเนื้อหาข่าวบนแพลตฟอร์ม เพื่อตอบโต้แผนการของรัฐบาลออสเตรเลีย ที่จะบังคับให้เฟซบุ๊กจ่ายเงินค่าเนื้อหา
รัฐบาลออสเตรเลียนำโดยนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันได้เสนอร่างกฎหมาย ว่าด้วยการที่บริษัทเทคโนโลยีต้องบรรลุข้อตกลงเรื่องผลตอบแทน กับองค์กรสื่อ หรือบริษัทผู้ผลิตเนื้อหาในออสเตรเลีย ก่อนนำข้อมูลไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า เข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา นายแคมป์เบล บราวน์ รองประธานบริหารฝ่ายหุ้นส่วนข่าวสารโลก บริษัทเฟซบุ๊ก กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร (1 ก.ย.) ว่า เป็นแนวทางปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง เนื่องจากเปิดโอกาสให้เจ้าของเนื้อหา กำหนดราคาค่าเนื้อหาได้โดยไม่มีกฎเกณฑ์
บราวน์ยืนยันว่า หากสภาผู้แทนราษฎรในกรุงแคนเบอร์รา อนุมัติข้อเสนอของรัฐบาลให้มีผลบังคับเป็นกฎหมาย บริษัทเฟซบุ๊ก จะดำเนินการตอบโต้ รวมถึงการป้องกันผู้ผลิตสื่อ และผู้ใช้บริการในออสเตรเลียที่ใช้งานแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก ไม่ให้แบ่งปันข่าวสาร ทั้งบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม แต่วิธีตอบโต้ดังกล่าวนี้ จะเป็นทางเลือกสุดท้าย ที่จะนำมาใช้
ความเคลื่อนไหวของบริษัทเฟซบุ๊ก เกิดขึ้นหลังจากบริษัทกูเกิลกล่าวโจมตีร่างกฎหมายฉบับนี้ เมื่อเดือนที่แล้วว่า ไม่เกิดประโยชน์กับฝ่ายใด แต่ไม่ได้กล่าวว่ากูเกิลจะมีมาตรการตอบโต้หรือไม่ หากร่างกฎหมายผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา
นายมอร์ริสันเคยกล่าวให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า จำเป็นต้องผลักดันเรื่องนี้ หลังการเจรจากับทั้งกูเกิลและเฟซบุ๊ก มานานกว่า 1 ปี แทบไม่มีความคืบหน้า และหากรัฐสภาอนุมัติข้อเสนอ ออสเตรเลียก็จะเป็นประเทศแรกของโลก ที่สามารถคุ้มครองผลประโยชน์ ของผู้ผลิตเนื้อหาภายในประเทศ.