สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ยืนยันยังไม่พบผู้มีไข้สูงที่หัวหิน
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานว่ามีบุคคลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง และเมียนมาที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ และ ต.บึงนคร อ.หัวหิน มีการเดินทางข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ ทำให้มีความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยประกาศปิด รร.อานันท์ และ รร.บ้านห้วยไคร้ นั้น ล่าสุดชุดปฏิบัติการควบคุมโรคได้ลงพื้นที่ หมู่ 3 บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ประกอบด้วย สาธารณสุขอำเภอหัวหิน ชุดปฏิบัติการควบคุมโรค รพ.หัวหิน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ พบชาวกระเหรี่ยงที่เข้าออกตามเส้นทางธรรมชาติอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ พื้นที่รอยต่อหมู่ที่ 2 บ้านฟ้าประทาน หมู่ที่ 3 บ้านป่าละอู เพื่อเก็บตัวอย่างเชื้อไปตรวจในห้องปฏิบัติการ แต่ไม่พบมีผู้ป่วยเป็นไข้ พร้อมทั้งได้แจ้งมาตรการป้องกัน โดยการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และล้างมือ พร้อมสั่งห้ามไม่ให้ข้ามแดนผ่านช่องธรรมชาติ และให้ผู้ปกครองท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่น ทำความเข้ากับประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้มีการข้ามแดนทางช่องธรรมชาติ
นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากพบว่ามีผู้ปกครอง 1 ราย เดินทางข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติไปฝั่งเมียนมา ล่าสุดยังไม่พบผู้ปกครองรายดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งหาตัวเพื่อนำเข้าสู่สถานที่กักตัว 14 วันตามมาตรการด้านสาธารณสุข ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ทั้ง 2 ตำบล และจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่มีบุคคลใดมีไข้สูง แต่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งจะต้องเพิ่มความเข้มงวดป้องกันการลักลอบเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา
นพ.สุริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ ขณะนี้ไม่อนุญาตให้บุคคลเดินทางเข้า-ออก แต่อนุญาตเฉพาะการนำเข้า-ส่งออกสินค้าประเภทแห้งได้ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันโควิด 19 อย่างเคร่งครัด โดยมีการกำหนดจุดขนถ่ายสินค้าบริเวณพื้นที่เขตกันชนระหว่างประเทศ พนักงานขับรถขนส่งสินค้าจากฝั่งเมียนมาจะอยู่แต่ในรถ มีการฉีดพ่นน้ำฆ่าเชื้อยานพาหนะ และจะมีคนจากฝั่งไทยไปขนถ่ายสินค้าลงจากรถเพื่อนำเข้ามาในประเทศจึงไม่น่าเป็นกังวลแต่อย่างใด