ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษา"โมนา"ฆ่าโหด"น้องน้ำ"

2020-08-27 18:05:30

ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษา"โมนา"ฆ่าโหด"น้องน้ำ"

Advertisement

ศาลอาญา เลื่อนอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ คดี "โมนา" ฆ่าฝังดิน "น้องน้ำ" เหตุเพราะจำเลยที่ 2 ไม่มาตามนัด

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.3966/2560 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือโมนา อายุ 47 ปี อดีตผู้เข้าประกวดนางงาม จ.เพชรบุรี, น.ส.ปรารถนา ท้วมทรัพย์ หรือเม้า อายุ 35 ปี เพื่อนสนิทรุ่นน้อง และนายปราโมทย์ สุวรรณพิทักษ์ อายุ 47 ปี พี่ชาย เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษอาญาหรือรับโทษน้อยลงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 และจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ซึ่งมารดาผู้ตายยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วยเป็นเงิน 1,465,776 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว น.ส.กฤษณา หรือโมนา มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง โดยน.ส.กฤษณา มีใบหน้าเรียบเฉย ส่วนนายปราโมทย์ จำเลยที่ 3 ได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี ซึ่งเดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วย ขณะที่ น.ส.ปรารถนา จำเลยที่ 2 ที่ได้ประกันตัวไม่ได้เดินทางมาศาล นอกจากนี้มารดาผู้ตาย และนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าร่วมฟังคำพิพากษา ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า น.ส.ปรารถนา จำเลยที่ 2 ทราบนัดโดยชอบแล้วปรากฏว่าไม่มาศาล จึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 2 เพื่อมาฟังคำพิพากษาและปรับนายประกัน พร้อมเลื่อนอ่านคำพิพากษาเป็นวันที่ 6 ต.ค.นี้ เวลา 09.30 น.




สำหรับคดีนี้ อัยการฝ่ายโจทก์ยื่นฟ้องว่า เมื่อช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.2555 น.ส.จริยา หรือน้องน้ำ อายุ 15 ปีเศษ ได้มาทำงานเป็นสาวรับใช้กับ น.ส.กฤษณา จำเลยที่ 1 ที่หมู่บ้านกลางกรุงรัชวิภา แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. โดยช่วงต้นเดือน เม.ย.-วันที่ 12 เม.ย.2555 จำเลยที่ 1 ซึ่งมีเจตนาฆ่า ใช้กระป๋องสเปรย์ทุบตีที่ศีรษะ น.ส.จริยา หลายครั้ง และยังใช้ท่อต่อพลาสติกของเครื่องดูดฝุ่นทุบตีที่ต้นขา รวมทั้งใช้ที่หนีบผมขณะที่ยังมีความร้อนจี้ตามลำตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นวันที่ 15 เม.ย.2555 จำเลยที่ 2 และ 3 ร่วมกันเคลื่อนย้ายศพ ซึ่งมีการขุดหลุมฝังศพผู้ตายที่ข้างบ้านพักใน จ.เพชรบุรี โดยจำเลยที่ 1 และ 2 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ แต่ก่อนการสืบพยานในชั้นศาลได้ขอให้การรับสารภาพ ขณะที่ นางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดาผู้ตาย ยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากกรณีดังกล่าวเป็นเงินทั้งสิ้น 1,465,776 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ซึ่งจำเลยที่ 1-2 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 3 กลับคำให้การรับสารภาพ

จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามมาตรา 288 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และให้ชดใช้มารดาผู้ตายที่ต้องขาดการอุปการะจากบุตรสาวที่เสียชีวิต รวมทั้งค่าปลงศพรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,065,776 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีที่ผิดนัดชำระ นับตั้งแต่วันที่มารดาผู้ตายยื่นคำร้องให้ชดใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.2555 ส่วนจำเลยที่ 2-3 มีความผิดฐานร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษอาญาหรือรับโทษน้อยลง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ให้จำคุกคนละ 2 ปี แต่คำให้การของจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนมีประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ 1 ปี 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 3 รับสารภาพก่อนสืบพยาน ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 1 ปี แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ แต่เมื่อพิจารณาพฤติการณ์แล้วเป็นการกระทำที่ร้ายแรง และแม้จำเลยที่ 3 จะเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านทำคุณงามความดีมาก่อนและเยียวยามารดาผู้ตายแล้วก็ตาม แต่ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ ต่อมาโจทก์ และจำเลยยื่นอุทธรณ์