ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว"ฟอร์ด-เจมส์"

2020-08-26 21:05:22

ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว"ฟอร์ด-เจมส์"

Advertisement

ศาลอาญา​ อนุญาตปล่อยชั่วคราว 2 แกนนำเยาวชนปลดแอก​ร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมตั้งเงื่อนไขห้ามทำผิดซ้ำ


เมื้อวันที่​ 26 ส.ค.​ หลังจาก พ.ต.ท.หญิงจิตติมา ธงไชย​ พนักงานสอบสวน​ สน.สำราญราษฎร์​ ควบคุมตัว​ นายทัตเทพ เรื่องประไพกิจเสรี​ หรือฟอร์ต อายุ​ 23​ ปี​ พร้อมนายภาณุมาศ สิงห์พรม​ หรือเจมส์ อายุ​ 24 ปี 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา​ ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ​ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน​ ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิด, ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่ายชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคกระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไปฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ



ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจรโดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของหรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด, ร่วมกันวางตั้งยื่นหรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร, ร่วมกันตั้งวางหรือกองวัตถุใด ๆ บนถนน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.เวลา 16.00 น.นายพริษฐ์ ชิวารักษ์กับพวกได้จัดกิจกรรม“ ใครไม่ทนให้ไปกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยรวมตัวกันบนทางเท้าหน้าร้านแมคโดนัลด์อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย​ ในระหว่างชุมนุมผู้กำกับการ​ สน.สำราญราษฎร์ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่​ ได้เข้าชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย แต่กลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมไม่ปฏิบัติตาม​ โดยนายทัตเทพ เรื่องประไพกิจเสรี​ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้โพสต์ชักชวนประชาชนให้มาร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย​ และขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อเวลา 17.20 น. เวลา 20.38 น.​ และเวลา​ 23.55 น. จำนวน 3​ ครั้ง พร้อมประกาศข้อเรียกร้อง 3 ข้อ​ คือ ให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน, ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน และให้รัฐบาลยุบสภา



ส่วน นายภาณุมาศ สิงห์พรม ผู้ต้องหาที่ 2 ได้โพสต์ชักชวนประชาชนให้มาร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย​ โดยขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อเวลา 23.39 น. กล่าวถึงรัฐธรรมนูญไม่ได้ออกแบบมาเพื่อประชาชน พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ 1-2​

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง​ 2​ ตามหมายจับ โดยในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาที่ 1​ และ​ 2​ ไม่ประสงค์ให้การใดๆ ต่อพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อสอบสวนต่อซึ่งจะครบกำหนด 48​ ชั่วโมง​ในวันที่​ 28 ส.ค. แต่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จสิ้นเพราะต้องทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 5 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร​ รวมทั้งผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหา​ โดยการฝากขังครั้งเเรกมีกำหนด 12​ วันนับตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.-5 ก.ย.63 หากผู้ต้องหาที่ 1-2 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว ศาลอาญาพิจารณาเเล้วจึงอนุญาตให้ฝากขัง

ต่อมามีรายงานว่า ศาลอนุญาตปล่อยชั้วคราว นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี และ นายภาณุมาศ สิงห์พรม  2  แกนนำเยาวชนปลดแอก   หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดียุยงปลุกปั่น มาตรา 116 และข้อหาอื่น รวม 7 ข้อหา จากเหตุการณ์ร่วมชุมนุมปราศรัยที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. โดย นายทัตเทพ เปิดเผยหลังได้รับการประกันตัว ว่า ศาลได้พิจารณาให้ประกันตัว โดยมีเงื่อนไขห้ามกระทำความผิดในลักษณะที่ถูกกล่าวหาอีก แต่หากผิดสัญญาประกันศาลจะปรับเงิน 1 แสนบาท

นอกจากนี้ นายทัพเทพ และนายภาณุมาศ ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าเคลื่อนไหวตามเจตนารมณ์ ด้วยหลักประชาธิปไตยตาม 3 ข้อเรียกร้องเดิม คือ ให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน และให้รัฐบาลยุบสภา พร้อมกันนี้ยังตั้งข้อสังเกตการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ สน.สำราญราษฎ์ ว่า​ วันที่ตัวเองพร้อมพวกเดินทางไปแสดงตัว และพร้อมที่จะถูกถูกดำเนินคดี แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่จับกุมในวันนั้น โดยอ้างว่าขณะนั้นมีผู้ชุมนุมเดินทางมาด้วยจึงเกรงจะมีเหตุการปะทะขึ้นหากควบคุมตัว กรณีนี้ถือเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่



นายทัตเทพ  กล่าวเสริมว่า​ อีกหนึ่งข้อเรียกร้อง คือ​ ต้องการให้ ส.ว.250​ คนลาออกจากตำแหน่ง​ โดยกลุ่มเยาวชนปลอดแอก ให้เวลาถึงสิ้นเดือน​ ก.ย.นี้ หากไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง อาจมีความจำเป็นต้องยกระดับการชุมนุม แต่ไม่ขอเปิดเผยแนวทางในการจัดกิจกรรม