ชาง ซอง-มิน อดีตผู้ช่วยของประธานาธิบดีคิม แด-จุง ผู้ล่วงลับของเกาหลีใต้ อ้างอย่างสมเหตุสมผลว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ล้มป่วยอาการโคม่า และคิม โย จอง น้องสาว วัย 33 ปี เข้าควบคุมอำนาจในเกาหลีเหนือแทน โดยนักการทูตเกาหลีใต้ผู้นี้ อ้างว่า เกาหลีเหนือกำลังปกปิดความจริงเกี่ยวกับสุขภาพที่เสื่อมทรุดของผู้นำ และว่า เขาเข้าใจว่า ผู้นำเกาหลีเหนืออยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว ไร้การตอบสนอง
รายงานชิ้นนี้ มีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวลือที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพที่แท้จริงของนายคิม จอง อึน เนื่องจากเขาหายหน้าไปจากสาธารณชนในปีนี้ และชาง ซอง-มิน ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า คิม โย จอง น้องสาวของผู้นำเผด็จการ อยู่ในตำแหน่งสำคัญที่จะสืบทอดอำนาจต่อจากพี่ชายของเธอ โดยโครงสร้างสืบทอดอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง เพราะฉะนั้น คิม โย จอง จึงต้องรักษาอำนาจไปก่อน เพราะไม่สามารถปล่อยให้เกิดสุญญากาศได้เป็นเวลานาน ๆ
คำกล่าวอ้างของชาง ซอง-มิน มีขึ้นแม้ว่า สื่อของเกาหลีเหนือได้เผยแพร่ภาพที่อ้างว่าเป็นนายคิม จอง อึน ขณะเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐบาลในวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า ยังไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้สำหรับภาพที่เห็น
ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ มีรายงานข่าวว่า นายคิม จอง อึน ได้แต่งตั้งให้น้องสาวเป็นผู้บัญชาการหมายเลข 2 ของเกาหลีเหนือ โดยคิม โย จอง ขณะนี้รับผิดชอบด้านนโยบายของเกาหลีเหนือด้านสหรัฐและเกาหลีใต้ อีกทั้งยังถูกมองว่าเป็นผู้นำหมายเลข 2 รองจากพี่ชายด้วย อย่างไรก็ตาม พี่ชายของเธอยังคงมีอำนาจเด็ดขาดในการปกครองเกาหลีเหนือ แต่ก็ได้มอบหมายหน้าที่บางอย่างเพื่อให้ช่วยเขาในการบริหารประเทศ
คิม จอง อึน ซึ่งเชื่อว่าอายุประมาณ 36 ปี ถูกพบออกงานไม่กี่ครั้งในปีนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวลือหนาหูในเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า เขาผ่าตัดหัวใจ ทำให้เขาอยู่ในอาการเลวร้าย หรือแม้แต่ลือว่าเสียชีวิต แต่ข่าวลือดังกล่าว ก็สิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม เมื่อสื่อของทางการเกาหลีเหนือ เผยแพร่ภาพของเขาขณะร่วมงานตัดริบบิ้นเปิดโรงงานผลิตปุ๋ยแห่งหนึ่ง