ถือเป็นเรื่องระทึกขวัญสำหรับหนุ่ม "เป๊ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์" หลังเจ้าตัวต้องไปทำงานพิธีกรภาคสนามที่ประเทศสเปนขณะเกิดเหตุแบ่งแยกประเทศจนเกิดจลาจลทำเอาหนุ่มเป๊กอดดูบอลคู่โปรดไปอย่างน่าเสียดาย งานนี้เจอเจ้าตัวในงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง"Blade Runner 2049" พร้อมเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
ไปประเทศสเปนตอนเหตุการณ์แบ่งประเทศ?
ไปเป็นพิธีกรไทยไฟท์ แต่ก็ไม่มีใครบอกผมก่อนเลยว่าเขาลงประชามติแบ่งแยกประเทศกันและผมก็เลยถามพี่ผู้จัดงานว่า เราจัดงานวันไหน เขาก็บอกขอจัดวันที่เขาลงประชามติพอดี(หัวเราะ) คือ เราไม่ได้ดูข่าวไปก่อน ไปวันแรกเขาก็มาบอกวันนั้นเลยคือตั้งแต่วันแรกก็ยังไม่มีอะไรทุกอย่างยังคงปกติ พอใกล้วันลงประชามติในเมืองก็มีความวุ่นวายมากขึ้น ทำไมเวลาเราจะไปไหนทำไมมีคนมาเยอะแยะเลย ก็เลยรู้สึกว่ามันก็เป็นเรื่องเซนซิทีฟของเขา
ตอนนั้นกลัวไหม?
กลัวสิ วันนั้นพอไปถึงก็มีคนมาบอกว่าระวังโดนรถชนนะ เราก็ถามว่าทำไม เขาก็บอกมีคนขับรถเร็วพุ่งชนคนบนฟุตบาท ก็เลยมีความรู้สึกว่ามันน่ากลัวนะ ก็ต้องคอยระวังตัวเองอย่าเข้าเมือง แต่มันก็ไม่ได้เพราะว่าบาร์เซโลนา มันเป็นเมืองเล็กๆ ถ้าจะไปช็อปปิ้งก็ต้องไปช็อปปิ้งในเมืองหรือไม่อย่างนั้นก็คงนอนอยู่ที่ชะอำก็ได้ ตอนแรกเราก็จะไปเที่ยวให้ทั่วเมือง พอไปถึงมันก็ยังปกติแต่แค่ไปผิดวันเท่านั้น
โดนเลื่อนบอลด้วย?
คือถ้ามันจะมีการระงับการเข้าไปดูบอลมันน่าจะมีกระแสมาก่อนว่าเลื่อนนัดอะไรก็ว่ากันไป เราก็จะได้ไม่ต้องจองตั๋ว พอดีเราจองตั๋วในเว็บไซต์อะไรมันก็ง่ายดายเพราะเห็นว่าไม่มีกระแสอะไร พอไปถึงสนามทุกคนก็ยังโอเคอยู่ยังสนุกร่าเริงแค่ครึ่งชั่วโมงก็พอแล้วพอเวลาเหลือ 15 นาทีแต่ประตูดันไม่เปิด พอ 5 นาทีก็ยังไม่เปิดเอ๊ะยังไง ก็เริ่มมีเสียงฮือฮา และก็มีฝรั่งเดินมาแล้วเราก็ทำหน้าซีเรียส ฝรั่งคนนั้นก็เลยพูดกับเราโนเกมส์ สักพักก็มีกระแสทวิตเตอร์ออกมามันมีภาพข่าวความรุนแรงเกิดขึ้นรอบๆว่ามีเหตุการณ์การลงประชามติเกิดขึ้นตอนนั้นเราก็เห็นแล้วอย่างที่ทุกคนเห็นเลือดตกยางออก ก็เลยคิดว่าถ้ามันไม่มีกระแสถึงขั้นรุนแรงจริงๆก็คงไม่มีภาพออกมาหรอก มีที่ไหนที่นักเตะอยู่ข้างในแต่คนดูไม่ได้เข้ามันเจ็บตรงนี้ แต่เราก็เข้าใจในความแยกบ้านแยกเมืองของเขา เราก็ผิดหวังมีอยู่บ้างนิดหน่อย
คือไม่รู้ว่าจะยกเลิก?
ใช่ ทุกคนไม่มีใครรู้ คือเขาเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยจริงๆ ถ้ามันไม่เซฟจริงๆเขาก็ไม่ปล่อยให้เข้าไป บางทีเราเข้าไปแล้วผมอาจจะไม่มีวันนี้ก็ได้ เราก็ไม่รู้ถ้าเราเข้าไปมันอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้
เสียค่าตั๋วฟรีเลย?
ก็พยายามหาทวงคืออยู่(หัวเราะ)ตอนนี้ก็มีพี่ที่นั่นบอกเหตุการณ์กำลังเดือดเลย มีตำรวจรอบเมือง เหมือนมีการประท้วงที่มีกลุ่มใหญ่มากขึ้นจากตอนแรกเป็นกลุ่มย่อยๆ เราก็เลยถือว่าเราโชคดีแล้วที่กลับมาก่อน ถ้าไม่งั้นคงเจอเหตุการณ์แย่กว่านี้ วันนั้นแค่ปิดสนามเราก็ว่ามันแย่แล้วที่ไม่ได้เข้าไปดู และที่นั่นไม่มีแท็กซี่เราก็ต้องนั่งรถบัสกลับมา เราพยายามเลี่ยงไม่เข้าเมืองก็นั่งรถบัสแต่ก็ไม่รู้ว่าไปไหน สักพักผ่านมาจุดประท้วงพอดี กำลังปีนรั้วเลย มันก็มีอยู่ทั่วเมืองแล้วก็เลยถือว่าได้ประสบการณ์ที่อย่างน้อยก็ไม่มีใครเคยได้เจอแบบเรา
ได้เห็นภาพความรุนแรงไหม?
ไม่ได้เห็นครับ เห็นผมก็คงไม่อยู่แล้วคงไม่ยืนดู ต่อไป ไปไหนก็คงเช็คข้อมูลแล้วดวงเราซวยเพราะครั้งที่แล้วก็ไม่ได้ดู ทั้งฤดูกาลเมสซี่แทบไม่ป่วยแต่ตอนที่ผมไปกลับป่วย ผมก็อดเจอ 2 รอบแล้วครั้งที่แล้วไม่เข้าสนามครั้งนี้ไม่ได้เข้าเลย ครั้งหน้าคงไม่ได้เข้าประเทศ(หัวเราะ) ครับถือเป็นเรื่องราวประสบการณ์ ที่จดจำสามารถเล่าให้ชั่วลูกชั่วหลาน เราก็เลยถือว่าเราโชคดีที่ได้กลับมาวันนี้ครับ
