รองผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อเรือเฟอร์รี่ล่ม 2รายสุดท้าย พร้อมย้ำจะมีการกู้ซากเรือเฟอร์รี่ ราชา 4 และขยะกว่า 120 ตันที่อยู่ใต้ทะเล คาดจะไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ภายในห้องประชุม รพ.เกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้เข้าพบกับนางยุวดี วัชฤทธิ์ มารดาของนายทิวากรณ์ วัชรฤทธิ์ (กะลาสี) และนางกรรณิการ์ เหล่าทรัพย์ ภรรยาขอนายไชยชาญ เหล่าทรัพย์ พนักงานขับรถบรรทุกสิบแปดล้อบรรทุกขยะอัดก้อน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือเฟอร์รี่ ราชา 4 ของบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด(มหาชน) ล่มกลางทะเลระหว่างเกาะสมุยกับ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อกลางดึกของวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา
การสูญเสียครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย ประกอบด้วยนายเทวินทร์ สุราษฎร์ , นายศิระวุธ ทองบุญยัง , น.ส.นภัรดา จันหาญ โดยทั้ง 3รายที่พบหลังเกิดเหตุผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ส่วน 2รายล่าสุดได้นำร่างของ นายทิวากรณ์ วัชรฤทธิ์ (กะลาสีเรือ) และนายไชยชาญ เหล่าทรัพย์ (พนักงานขับรถบรรทุก) ขึ้นจากใต้ทะเลแล้ว
หลังจากที่พบศพของทั้งสอง นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมามอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นในการจัดการศพของจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเป็นตัวแทนกิจการค้าร่วม ปัญจะ ลัคกี้ คลีน เอ็นไวรอนเมนทอล มอบเงินช่วยเหลือ ให้กับนางยุวดี วัชฤทธิ์ มารดาของนายทิวากรณ์ วัชรฤทธิ์ (กะลาสี) และนางกรรณิการ์ เหล่าทรัพย์ ภรรยาขอนายไชยชาญ เหล่าทรัพย์ พนักงานขับรถบรรทุกสิบแปดล้อ นอกจากนี้ตัวแทนบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับนางยุวดี วัชฤทธิ์ มารดาของนายทิวากรณ์ วัชรฤทธิ์ (กะลาสี) ซึ่งเป็นพนักงานบริษัท
ภายหลังได้รับมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นนางกรรณิการ์ เหล่าทรัพย์ กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งที่จริงตัวเองคิดว่าหน้าจะเป็นความรับผิดชอบของนายจ้าง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากนายจ้างที่เป็นเจ้าของรถบรรทุกสิบแปดล้อตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ได้รับเงินมาเพียงสามพันบาท ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยที่ให้ความช่วยเหลือ
ด้านนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้การเตรียมกู้เรือเฟอร์รี่จากใต้ทะเลขึ้นมานั้นได้มีการเตรียมความพร้อมแล้ว จากนี้ไปบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด(มหาชน) จะต้องเสนอแผนการกู้เรือเฟอร์รี่ต่อนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ก่อนวันที่ 26 ส.ค. และกำหนดเส้นตายไว้ในวันที่ 28 ส.ค.นี้จะเริ่มปฏิบัติการกู้เรือเฟอร์รี่
ส่วนการกู้เรือได้มีการประสานกับผู้บริหารบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ถึงมาตรการป้องกันไม่ให้ขยะหลุดลอย ขั้นตอนแรกจะใช้เรือประมงอวนลากขึงอวนด้วยความยาวประมาณหนึ่งร้อยเมตร เพื่อป้องกันก้อนขยะหลุดลอยขณะทำการกู้เรือ โดยอวนจะยาวสามสิบเมตรแต่ทะเลบริเวณดังกล่าวลึกเพียงยี่สิบเมตรก็จะกันขยะได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้จะมีการเตรียมสารเคมีป้องกันน้ำมันจากเรือเฟอร์รี่ที่อาจจะลอยบนผิวน้ำ สำหรับสารเคมีที่ใช้กำจัดคราบน้ำมันที่อาจเกิดขึ้นนั้นได้รับความร่วมมือ จาก ปตท. ซึ่งเป็นเคมีกำจัดคราบน้ำมันโดยเฉพาะ นอกจากนี้นายอำเภอเกาะสมุยได้เตรียมเรือและเจ็ตสกีพื่อเก็บขยะที่อาจหลุดลอยในทะเลระหว่างที่ทำการกู้เรือ การร่วมมือกันในการกู้ซากเรือเฟอร์รี่ในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน