“ธนาธร" ซักเดือด “เสธ.ไก่อู" ปม “ความเป็นกลาง-ผังล้มเจ้า”

2020-08-18 17:05:16

“ธนาธร" ซักเดือด “เสธ.ไก่อู" ปม “ความเป็นกลาง-ผังล้มเจ้า”

Advertisement

“ธนาธร" ซัก “เสธ.ไก่อู" ปมความเป็นกลางของกรมประชาสัมพันธ์ จี้ถาม "ผังล้มเจ้า" เชื่อมโยงไปเอง สร้างความเข้าใจผิดให้สังคมหรือไม่

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2564 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะที่ปรึกษา กมธ.ร่วมซักถามและขอคำชี้แจงในส่วนของหน่วยงานกรมประชาสัมพันธ์ โดยมี พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ชี้แจงโดยเริ่มต้นด้วยการยืนยันว่า กรมประชาสัมพันธ์มีความเป็นกลางไม่ได้เป็นเครื่องมือให้กับรัฐบาลชุดใดชุดหนึ่งแต่อย่างใด ทำให้ นายธนาธรถามถึงความเป็นกลางว่าจริงหรือไม่ เพราะก่อนหน้าที่มีกรณีร้องเรียนเรื่องใช้กรุ๊ปไลน์ผู้บริหารในการชื่นชมนโยบายของพรรคการเมืองหนึ่งและโจมตีอีกพรรคการเมืองหนึ่งระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง

พล.ท.สรรเสริญ กล่าว ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำในลักษณะส่วนตน แต่เป็นในรูปแบบของรัฐบาล เพราะมีข้อมูลข่าวสารจากสื่อที่พูดเรื่องขีดความสามารถของรัฐบาลมุมต่างๆ ตนเลยยกตัวอย่าง เช่น เราพูดถึงความสามารถรัฐบาลบริหารจัดการราคาน้ำมันขายปลีก ให้ช้อมูลไปว่าน้ำมันตลาดโลก สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ราคากลางๆ อยู่ที่ 80-90 เหรียญต่อบาร์เรล สมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นสูงอยู่ที่ 120 เหรียญต่อบาร์เรล และสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นราคาต่ำอยู่ที่ 40-50 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ทั้ง 3 รัฐบาลนั้น สามารถทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกประเภทดีเซลอยู่ในอัตราใกล้เคียงกัน นี่เป็นเพียงการเอาตัวเลขมาชี้ให้เห็น ทำความเข้าใจว่าถ้าราคาน้ำมันตลาดโลกสูง ต้องเอาเงินกองทุนน้ำมันมาใช้ ทำให้กองทุนน้ำมันติดลบ แต่ถ้าต่ำก็ไม่ต้องใช้ เก็บเงินเข้าสู่กองทุนได้มาก เป็นการเล่าเรื่องรัฐบาลต่อรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายธนาธร ได้ให้ พล.ท.สรรเสริญ ซึ่งเคยเป็นอดีตโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ช่วยชี้แจงถึงกรณีที่ปรากฏชื่อของตนอยู่ในผังเครือข่ายหนึ่งซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่า "ผังล้มเจ้า" ซึ่ง พล.ท.สรรเสริญ เคยนำมาแถลงข่าวและส่งต่อให้กับสื่อมวลชน จนอาจสร้างความเข้าใจผิดให้คนเชื่อว่าผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในเอกสารดังกล่าวมีพฤติกรรมเป็นแบบนั้น และสุดท้าย พล.ท.สรรเสริญ ก็ได้มีการยอมรับว่าผังดังกล่าวนี้ได้มโนไปเอง ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อยากให้ช่วยชี้แจงเรื่องนี้ ซึ่ง พล.ท.สรรเสริญ กล่าวชี้แจงว่า เรื่องเกี่ยวผังล้มเจ้า ที่ว่าตนได้ยอมรับต่อศาลว่า ผังนี้ตนได้มโนไปเองนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเรื่องนี้คนที่ฟ้องร้องต่อศาล ตั้งแต่สม้ยที่ตนเองเป็นเป็นโฆษก ศอฉ. คือนายสุทธาชัย ยิ้มประเสริฐ ซึ่งตนไม่ได้ยอมรับต่อศาลว่าเป็นเช่นนั้น แต่ท่านผู้นี้ได้ถอนฟ้องตนและถอนฟ้องท่านนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นคือนายอภิสิทธิ์ไปเอง ซึ่งตนไม่ได้ยอมรับต่อศาลลักษณะที่ว่ามโนแบบนั้น

ทำให้ นายธนาธร ได้กล่าวว่า กรณีของผังล้มเจ้า ท่านอาจจะปฏิเสธว่าไม่ได้มโน แต่อยากขออนุญาตอ่านคำแถลงของท่านต่อศาล ซึ่งอ้างอิงจากสำนักข่าว วันที่ 26 พ.ค. 2554 ที่ระบุว่า "ข้าได้รับมอบหมายให้นำเอกสารเหล่านั้นไปแจกแก่สื่อมวลชน ซึ่งเอกสารที่ไปแจกนั้นมิได้มีความหมายว่า ผู้มีชื่อในเอกสารเป็นผู้เกี่ยวข้องในฐานะอยู่ในขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่อยู่ในความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ในลักษณะต่างๆ ซึ่งให้สังคมพิจารณาและวินิจฉัยเอาเอง" อย่างนี้ แปลว่าผังล้มเจ้าที่พูดมาตลอดมันไม่มี มีแค่การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ แล้วให้สังคมไปพิจารณาเอง แต่ทว่าเวลาที่ท่านพูดถึงเรื่องผังล้มเจ้า ณ วันนั้น พูดเสมือนหนึ่งว่าเกิดขึ้นจริง แต่เวลาแถลงกับศาลกลับอีกเรื่อง อย่างนี้สังคมพิจารณาเองได้ว่าท่านมีความตั้งใจอย่างไร

ท้ังนี้ พล.ท.สรรเสริญ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า คำว่า "มโนไปเอง" เป็นคำที่สื่อเลือกข้างสุดโต่งนำไปใช้