"แนน ชลิตา" ประกาศปิดอู่ มุ่งเก็บเงิน 20 ล้าน แพลนไว้ให้ลูกชาย

2020-08-15 11:55:46

"แนน ชลิตา" ประกาศปิดอู่ มุ่งเก็บเงิน 20 ล้าน แพลนไว้ให้ลูกชาย

Advertisement

คุณแม่คนสวย “แนน ชลิตา” พาลูกชาย “น้องธัชช” วัย 4 ขวบครึ่งมาในรายการ ต้มยำอมรินทร์  ทำเอาเหล่าพิธีกรชื่นชมในความน่ารักช่างพูด เพราะเห็นตัวแค่นี้รู้จักการเป็นนักรีวิวแล้วนะ แถมยังอยากเลื่อนขั้นเป็นยูทูบเบอร์ตัวน้อยและขอมีช่องยูทูบของตัวเองด้วย แต่ถึงจะเป็นที่รักหลงของคุณตา คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่และคุณน้าแล้ว แต่แม่แนนก็บอกว่าไม่ตามใจลูกจนเกินไป แถมงานนี้ยังเผยเคล็ดลับการเลี้ยงลูกอีกด้วย บอกเลยว่าน่าเอาเป็นแบบอย่างมากๆ



เป็นคุณแม่สายสตรองมาก แนนกับพี่เม่นเข้มงวดกับลูกมากไหม ?



แนนว่าเข้มงวดกันคนละเรื่องดีกว่า อย่างแนนจะเข้มงวดกับเขาเรื่องการเรียน อย่างมีช่วงนึงที่พวกเราต้องเรียนออนไลน์กัน 3 เดือนที่บ้าน รู้ตัวเลยว่าตัวเองเป็นคนไม่ปล่อยวาง เพราะตัวเองเป็นเด็กเรียนเป็นเด็กห้องคิง เพราะฉะนั้นเวลาลูกเรียนกับคุณครูเราจะแอบหยิกอยู่ใต้โต๊ะธัชชตั้งใจเรียนสิ คือเขาเด็ก ฟังๆได้ 10 นาทีแล้วเขาก็อยากไปเล่นอะไรอย่างงี้ เดี๋ยวก็วิ่งไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวก็วิ่งไปกินขนม แต่เราเนี่ยจะแบบธัชชตั้งใจเรียนสิลูก แนนเป็นคนที่ถ้าลูกจำตรงนี้ไม่ได้ แนนไม่ปล่อยให้กินข้าวอะ ธัชชต้องจำโฟนิคนี้ให้ได้ (การออกเสียงภาษาอังกฤษ) ตอบแม่มา

มันเป็นการเรียนออกเสียง พอเอาไปผสมคำแล้วจะรู้ว่า ภาษาอังกฤษคำนี้ออกเสียงยังไง?

ใช่ค่ะ บางทีเขาอาจจะไม่รู้ความหมายแต่ว่าเด็กสมัยนี้จะให้เรียนแบบนี้แล้วก็อ่านผสมได้เอง เรียนยากมาก เราต้องเปิดกูเกิลเลยอะ พอฟังครูไปด้วย เราก็ต้องเปิด เฮ้ย...อะไร เราจะได้มาสอนลูกได้ แล้วเราก็รู้สึกว่าเราซีเรียสเพราะเราเป็นคนตั้งใจเรียน เราก็อยากจะให้ลูกได้ เราก็พยายามทำใจ สามีก็บอกว่าแนนลูกเพิ่งจะสี่ขวบครึ่ง อย่าไปซีเรียส เราบอกไม่ได้เราต้องปลูกฝังวินัยให้ลูกตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก



พี่เม่นซีเรียสเรื่องอะไร? 

ซีเรียสเรื่องมารยาท เวลาเขาไปไหนเขาจะให้ลูกสวัสดีทุกคน พ่อบอกสวัสดีครับ ธัชชต้องสวัสดีมีมารยาท ใครให้ของก็ต้องขอบคุณ พ่อเขาจะซีเรียสเรื่องนั้น

ถ้าเจอใครแล้วไม่สวัสดีไม่ขอบคุณ พ่อเขาจะมีวิธีการดุยังไง?

เขาไม่ดุ เขาก็จะบอกว่าธัชชสวัสดีหรือยัง สวัสดีก่อน เขาจะพูดจนหลังๆธัชชก็เป็นนิสัย เห็นน็อต เห็นแจน เห็นที่บ้านเดินลงมาก็ สวัสดีครับ คือกลายเป็นอัตโนมัติ ตามที่พ่อเขาพยายามจะปลูกฝังใส่เรื่องพวกนี้ลงไป



เมื่อกี้จับสับปะรดแล้วเดินเข้าไปล้างมือ ดูเป็นเด็กสะอาดตั้งแต่เด็ก ?



แนน : ทำไมธัชชต้องล้างมือ เพราะอะไร?(ถามลูกชาย)

ธัชช : มือมันเหนียว

ใครดุกว่ากัน คุณพ่อกับคุณแม่?

ธัชช : ไม่มีใคร



จริงๆแนนดุไหม?

แนน : ก็คิดว่าตัวเองดุนะ ดุบางเรื่อง จริงๆพ่อใจดีกว่า ไอ้นี่อ้อน(แซวธัชช) เขาเคยบอกว่าขากลัวน้าน็อตมากที่สุด น้าน็อตดุไหม?(ถามลูกชาย) เขาเคยดุธัชชกลัว เขาตัวใหญ่

ธัชช : กลัวน้าน็อตอะ

ความประหยัดเนี่ย คุณพ่อเป็นคนปลูกฝังเลยใช่ไหม?

ใช่ค่ะ เวลาเขาอยากได้อะไร เราก็จะไม่มีเงิน เราจะบอก เนี่ยแม่ไม่ได้ทำงานเห็นไหมคะ หรือไม่ก็ แม่ต้องออกไปกี่รอบเนี่ย กว่าแม่จะได้เงินมาซื้อของให้ธัชชอย่างนึง ก็พยายามบอกเขาว่าเงินมันไม่ได้หาง่ายๆ



แล้ววิธีการใช้เงิน?
แนน : เขาก็ไม่ค่อยอยากได้ของเล่นอะไรเยอะแยะมากมาย เขาชอบทำของจริงๆอย่างที่เห็นอะค่ะ ทำน้ำปั่น แล้วก็ถูพื้น ชอบเปิดแอร์ ทำความสะอาด ชอบแบบนั้น ของเล่นก็เล่นเหมือนกัน แต่ไม่ได้ซื้ออะไรให้ราคาแพง ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน ต้องทำอะไรแลกเปลี่ยน

แนนมีวิธีในการบอกลูก เวลาเขาเห็นเพื่อนๆมีแล้วอยากได้บ้าง ?

แนน : ธัชชอยากได้อะไรนะบอกแม่สิ ที่แม่บอกขึ้น 5 ขวบถึงจะซื้ออะ? นาฬิกาอะไรนะ?

ธัชช : ไอโม่

แนน : เขาอยากได้นาฬิกาไอโม่เพราะมีเพื่อนที่โรงเรียนใส่ไปโรงเรียน อยากได้มากพูดทุกวัน เราก็บอกว่าเขาไม่ได้ได้จริงๆหรอก สงสัยเขาให้มารีวิวแล้วถอดคืน น่าจะเป็นยังงั้น ใช่ไหม?ตอนนี้ใส่อยู่ปะเนี่ย?(ถามลูกชาย)

ธัชช : (ส่ายหน้า)

แนน : เห็นไหม แม่คิดว่าเขาเอามารีวิวแล้วเขาเอาคืน



มีการสอนให้หยอดกระปุกออมสินไหม?

แนน : ตอนเด็กๆก็มีนะ หยอดจนเต็มแล้วก็เก็บ แล้วก็ใส่กระเป๋าแตงโม ธัชชจะมีกระเป๋าไว้เก็บสตางค์เป็นกระเป๋าแตงโม

นิสัยที่ประหยัดแบบนี้ได้มาจากคุณพ่อไหม?

แนน : ก็คิดว่าน่าจะได้คุณพ่อ คุณพ่อ(สามีแนน)จริงๆประหยัดกับขี้เหนียวมันใกล้กันมากเลย เขาเป็นคนที่จะซื้ออะไรคือ คิดแล้วคิดอีก คือเขามีเงินมากกว่าเราอะ เขาหาเงินได้มากกว่าเราอะ บางทีไปดูเสื้อกันอะ จริงๆไม่ได้แพงเลยนะ ประมาณ 790 หรือ 990 อะไรอย่างนี้ เขาก็แบบดู เราก็ทำไมไม่ซื้ออะ เขาบอกเดี๋ยวรอมันลด 500 เดี๋ยวมันก็ลด อย่างนั้นค่ะ

จนแนนทนไม่ไหว ต้องไปซื้อให้ ?

แนน : ไปซื้อให้ เขาเป็นคนชอบซื้อของใช้ในบ้าน เป็นพ่อบ้าน เขาจะดูเปรียบเทียบ เวลาไปห้างจะมีสติกเกอร์ ประหยัด 30 20 พี่เม่นมีเป็นกระเป๋าจ้า อย่างเราอะซื้อเหอะไม่เป็นไรเราขี้เกียจ ไม่ได้ดูอะไรวุ่นวาย เขาพกสติกเกอร์อันนั้นน่ะทั้งแผ่น ไปซูปเปอร์มาร์เก็ตแล้วก็หยิบมา เดี๋ยวก่อนๆซื้อครบพันหรือยัง? เขาเป็นอย่างนั้น เขาเคยพูดกับเราว่า เขาเคยไม่มีมาก่อน เขาบอกว่าไม่มีเลยคือจน จนครั้งนึงเขามาสร้างฐานะด้วยตัวเองได้ เขาเคยพูดกับเรากับสอนลูกบอกว่า จะไม่มีวันกลับไปจนอีกแล้ว เพราะว่ารู้จักใช้เงินและก็วางแผนการใช้เงิน บางทียังมาสอนเราอีกว่า “แนนต้องรู้จักวางแผนการใช้เงินนะ ดูซิช่วงโควิดก็ไม่มีงานอะรอย่างนี้” เข้าเคยผ่านจุดที่ไม่มีมาแล้ว

แล้วที่บอกว่าพี่เม่นถึงขนาดสมัครไอจี เพื่อตามดูเมียตัวเอง เพราะอยากรู้ว่าเมียหนีไปช้อปปิ้งที่ไหน?

แนน : จริงๆเขาก็มีแหละค่ะ แต่ว่าไม่ค่อยตามใคร แล้วก็ตั้งเป็นส่วนตัว รับเป็นเพื่อนก็ไม่ค่อยรับ ดีนะเขารับพี่อั๋นน่ะ คือเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก เขาก็เลือกรับ ถ้าเป็นเพื่อนเรา ฉันต้องเจอเขาอีกไหมคนนี้ เขาจะถามก่อน ถ้าคนนี้อื่นที่เจอครั้งเดียวในชีวิตเขาจะบอกว่าไม่ต้องรับได้ไหม ชาตินี้ไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว เขาเป็นคนอย่างนั้นอะพี่คิดดูดิ ไอจีก็มีเพื่อนอยู่ไม่กี่คนอะหลักสิบ เพราะดูเมีย แล้วก็ไว้ส่องเมียเลี้ยงลูกหรือเปล่า แล้วก็ดูนาฬิกา ดูหุ้น เขาดูแค่นี้ชีวิตเขา เขาไม่อยากรู้เรื่องคนอื่น ไม่สนใจเรื่องคนอื่น เขาก็มีความสุขของเขา

คิดถึงวงการบันเทิงไหม?

แนน : จริงๆเราก็ไม่ได้เลิกทำโดยถาวร เพียงแต่เราไม่ได้เล่นละครแล้วเท่านั้นเอง ไม่ได้มาใช้ชีวิตในวงการละครแบบสมัยก่อนที่แบบกินนอนในกองถ่ายอะไรอย่างนี้ แต่งานอย่างอื่นก็ยังประปราย ก็เลยไม่ได้คิดว่าเราโหยหาหรืออะไร เพราะโดยปกติพอเรามีครอบครัวแล้วเรารู้ว่าหน้าที่เราตอนนี้คือเป็นแม่อย่างนี้ค่ะ ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการที่เราจะเลี้ยงเด็กคนนึงให้เป็นคนดี ณ ตอนนี้ เดี๋ยวพออาชีพแม่เสร็จ มันก็คงไม่มีวันหยุดหรอก มันคงต้องเลี้ยงเขาไปจนตาย เพียงแต่ว่ามันอาจจะมีช่วงที่เราได้ทำอะไรตามใจหรือตามฝันสิ่งที่เราอยากทำ นั่นเมื่อธัชชต้องโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว

ตอนนี้ยังเป็นวัยที่ต้องการแม่ ?

แนน : เรียกแม่ทุก 5 นาทีอะค่ะ แม่ๆ ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราก็แฮปปี้กับการอยู่กับเขา

เรามีความฝันอะไรที่อยากจะทำ บอกได้ไหม?

แนน : ได้ค่ะ ก็บอกพี่เม่นแล้วล่ะว่า วันนึงขอไปอยู่อินเดีย จะไปอินเดีย 1 เดือน จะไปฝึกโยคะเพื่ออยากจะได้ใบรับรอง เพื่อจะนำโยคะศาสตร์นี้มาสอนที่เมืองไทย คือตอนนี้ที่เราไม่มีใบอันนี้เพราะว่าโยคะนี้ เขาอยู่ที่เมืองไมซอ ประเทศอินเดีย แล้วเราจะไปแบบอาทิตย์นึงไม่ได้ เราต้องไปหาคนที่เขาคิดอันนี้ เขาบอกว่ายูต้องมา 1 เดือน อย่างน้อยครั้งละ 1 เดือน เหมือนเป็นคอร์ส ไม่ใช่แค่ 1 เดือนแล้วคุณจะได้นะ ปีนึงต้องมาปีละ 1 เดือน ซึ่งตอนนี้เราทำไม่ได้ แต่นี้คือความฝัน เป็นความฝันของแนนที่แนนยากจะทำ



คนที่ตามเราจะรู้ว่าเป็นคนนึงที่เล่นโยคะเก่งที่สุดในประเทศแล้ว ไม่แพ้ใคร แนนรู้สึกว่าใบนี้มันสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ?

แนน : ไม่ได้คิดว่าใบนั้นมันสำคัญกว่าชิวิตหรือสำคัญกว่าการสอนคนอื่น แต่คิดว่าเรารักศาสตร์อันนี้แล้วเราอยากจะไปหาจุดกำเนิด แล้วให้คนที่นู่นเขายอมรับเรา อันนี้คือความฝัน แต่จริงเราไม่ได้มายด์ฉันจะต้องมีใบนี้เพื่อจะสอนคนอื่น ทุกวันนี้เราก็สอนคนอื่นอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราอยากจะได้ใบเพื่อที่จะคอนเฟิร์มว่าเนี่ย ศาสตร์ฉันไปมาถึงแล้ว เพราะตอนนี้เราไม่มีชื่ออยู่ในสารบบของคนที่คิดศาสตร์นี่ไงคะ เขาจะมีครูทั่วโลกซึ่งจะมีใบนี้ว่าคุณสามารถได้รับอนุญาตสอนศาสตร์นี้ได้ เราก็เป็นคนูโยคะปกติที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนประเภทแอสทังก้านี่คือความฝันของแนน

อยากมีลูกอีกคนไหม?

แนน : พอค่ะ คนดียวพอแล้วค่ะ คิดว่าเลี้ยงเด็กคนนึงเราต้องมีเงินประมาณ20ล้าน ตีซะเนอะ เลี้ยงแบบเรียนอินเตอร์ และอยู่ได้โดยที่เราไม่ต้องลำบาก คือเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด เอาจริงๆนะ เคยคุยกับพี่เม่นว่าไม่อยากให้อยู่โรงเรียนดีๆแล้ววันนึงพ่อแม่เงินหมด แล้วเอาลูกออกจากโรงเรียน เราไม่อยากเป็นอย่างนั้นไง เราก็เลยคิดว่ามีคนดี๋ยว แล้วเรา 2 คนช่วยกันเลี้ยงได้ก็โอเค แล้วอีกอย่างเขาก็มีวิตาแล้วเนอะ เล่นกันทุกวัน มีน้องสาวชื่อวิตา(ลูกสาวน็อตวรฤทธิ์) ก็แฮปปี้แล้ว