เปิดผลสอบพบ"30 ตร."บกพร่องปมสั่งไม่ฟ้องคดี"บอส"

2020-08-13 13:55:02

เปิดผลสอบพบ"30 ตร."บกพร่องปมสั่งไม่ฟ้องคดี"บอส"

Advertisement

"คณะกรรมการ" เผยผลสอบข้อเท็จจริงคดี "บอส อยู่วิทยา" พบ "30 ตำรวจ" บกพร่อง ทำอัยการสั่งไม่ฟ้อง

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะกรรมการตรวจสอบคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา แถลงสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังครบกรอบการทำงาน 15 วัน โดยประเด็นแรก คณะกรรมการพบการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะพนักงานสอบสวนทั้งชุดเก่า และชุดใหม่ อย่างน้อย 14 คน มีทั้งที่เคยส่งให้ ป.ป.ช.ชี้มูลไปแล้ว และชุดใหม่อีก 3-4 นาย โดยมีพฤติกรรมที่สำคัญ คือ 1.ไม่ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ที่ตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาในวันเกิดเหตุ, 2.ไม่ตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาเพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในทันที และไม่สอบปากคำแพทย์คนกลาง สอบเพียงนายแพทย์ที่ผู้ต้องหาเป็นคนพามา ซึ่งให้ความเห็นว่า หากผู้ต้องหามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 328.11 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นในช่วงเกิดเหตุ ปริมาณดังกล่าวจะทำให้ไม่สามารถขับรถได้ และไม่รู้สึกตัว 3.การใช้ดุลพินิจเรื่องสารแปลกปลอมในร่างกาย และไม่นำคำให้การของแพทย์ที่ยืนยันว่าเกิดจากการเสพโคเคนมาพิจารณา แต่กลับนำความเห็นของแพทย์ว่าเป็นผลจากยาแอมม็อกซิลินมาใส่ในสำนวน ทำให้ไม่แจ้งข้อหายาเสพติด

พล.ต.อ.ศตวรรษ ระบุอีกว่า 4.ไม่ขอศาลออกหมายขังผู้ต้องหา แต่กลับให้ประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นสอบสวน, 5.การใช้ดุลยพินิจสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยระบุความเร็วที่ 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งมี พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานรวมอยู่ด้วย ซึ่ง พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ระบุว่า คณะกรรมการได้สอบปากคำผู้เชี่ยวชาญคนกลางหลายรายเกี่ยวกับการพิจารณาวิธีการคำนวณอย่างละเอียด จนเชื่อได้ว่าความเร็วที่แท้จริงอยู่ระหว่าง 126-177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 6.ไม่ออกหมายจับตามที่อัยการสั่งหลายครั้ง โดยพนักงานสอบสวนอ้างเหตุผลว่าคดีขาดอายุความ , นายวรยุทธร้องขอความเป็นธรรม, ทนายแจ้งขอเลื่อนพบอัยการเนื่องจากติดภารกิจ หรืออยู่ต่างประเทศ ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าไม่สมเหตุสมผล 7.ไม่ขยายเวลาสอบสวน, ไม่กำกับดูแลการปล่อยตัวชั่วคราว, ไม่รายงานผู้บังคับบัญชา,ผู้ออกรายงานให้การไม่ตรงกับรายงาน ฯลฯ




พล.ต.อ.ศตวรรษ ระบุเพิ่มเติมว่า ส่วนประเด็นที่ 2 คือ ผลการตรวจสอบการใช้ดุลพินิจของ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่พบความบกพร่องจากการไม่แย้งคำสั่งของอัยการ เนื่องจากการพิจารณาของตำรวจจะต้องพิจารณาตามข้อมูลและหลักฐานภายในสำนวนเท่านั้น ไม่สามารถนำหลักฐานใหม่มาพิจารณาเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบ พล.ต.ท.เพิ่มพูล ใหม่อีกครั้งในประเด็นเดิม ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการลงมา โดย พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ยืนยันว่า หากพบความผิด ก็จะดำเนินการไปตามนั้น ไม่มีการฟอกขาวให้ผู้ใด นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่าติ ยังสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคดีใหม่ โดยจะนำประเด็นความเร็วรถซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญแก่คดีที่จะเอาผิดผู้ต้องหามาทำใหม่ รวมทั้งดำเนินคดีเสพโคเคนเพิ่มอีกหนึ่งคดี ส่วนการติดตามตัวนายวรยุทธ นั้น ยืนยันว่าหากมีหมายจับใหม่ ก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางว่าจะส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ส่งผลการสอบสวนเสนอต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 1,400 แผ่น และมีผู้ที่บกพร่องต่อหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 30 นาย แบ่งเป็นหมวดหมู่ตั้งแต่ระดับพนักงานสอบสวน พยาน ผู้เชี่ยวชาญ และเจ้าหน้าที่กฎหมายและคดี แต่ในการแถลงข่าววันนี้ได้รับการเปิดเผยเพียงพนักงานสอบสวน 11 นายชุดเดิม และชุดใหม่อีก 3-4 นายเท่านั้น