ชาวบ้าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ กว่า 20 ราย รวมตัว ร้องผู้ว่าฯ กระบี่ เร่งติดตามคดีฉ้อโกงประชาชน หลังถูกชักชวนให้ลงทุนเงินดิจิทัลสูญเงินกว่า 75 ล้านบาท หลังแจ้งความเมื่อปลายปี 62 แต่คดีไม่คืบหน้า เผยมีข้าราชการระดับอำเภอเอี่ยวด้วย เกรงคดีจะไม่คืบหน้า และไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นางหนูพัด วะเจดีย์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.6 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ พร้อมด้วยตัวแทน ชาวบ้านจำนวนประมาณ 20 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นหนังสือถึง พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าฯ กระบี่ เร่งติดตามคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดี ไว้ เมื่อปลายปี 62 ที่ สภ.เกาะลันตา หลังชาวบ้าน ผู้เสียหายถูกชักชวนร่วมลงหุ้นดิจิทัล ลักษณะแชร์ลูกโซ่ มาตั้งแต่ปี 61 แต่สุดท้ายถูกแม่ทีมเชิดเงินหนีสูญเงินไปร่วม 75 ล้านบาท บางรายนำที่ดิน บ้าน รถ ไปจำนอง เพื่อมาลงหุ้นกับเครือข่าย แถมยังชักชวนญาติพี่น้องร่วมด้วย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ล่าสุดผู้เสียหายบางรายก็ถูกยึดบ้าน ที่ดิน และรถแล้ว เนื่องจากไม่มีเงินผ่อนชำระ จึงมาต้องร้องขอความเป็นธรรม เกรงว่าคดีไม่คืบหน้า เนื่องจากมีข้าราชการระดับอำเภอมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และหวังว่าจะได้เงินที่ลงทุนไปกลับคืนมาบ้าง
ต่อมานายนันธวัช เจริญวรรณ ปลัดจังหวัดกระบี่ ได้ออกมารับเรื่องแทนผู้ว่าฯ กระบี่ พร้อมกล่าวว่า เรื่องที่กลุ่มชาวบ้านมาร้องเรียนในวันนี้ เป็นการขอให้ทางจังหวัด ช่วยเร่งรัดติดตามความคืบหน้าของคดี หลังจากที่ร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ ซึ่งขณะนี้ได้เสนอเรื่อง ไปยังผู้ว่าฯ เพื่อให้ลงนามและส่งเรื่องไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เพื่อเร่งรัดคดีของกลุ่มผู้เสียหายที่มาร้องทุกข์ในวันนี้ ดำเนินชี้แจงความคืบหน้าให้ทางจังหวัดได้รับทราบ เพื่อแจ้งความคืบหน้าให้ผู้ร้องได้รับทราบความคืบหน้าของคดีต่อไป
นางหนูพัด กล่าวว่า ตนและสามีได้รับการชักชวนจากแม่ทีม ซึ่งเป็นคนรู้จักกันให้ลงหุ้นดิจิทัล โดยจะเอาเงินไปซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในตลาดออนไลน์ เมื่อปี 61 โดยตอนแรกลงทุนไป 10,000 บาท ได้เงินตอบแทนเฉลี่ยอาทิตย์ละ 800 บาท สามีของตนจึงเพิ่มเงินลงทุนเป็น 2 แสนบาท ได้เงินตอบแทนกลับมาเฉลี่ยอาทิตย์ละ1,500-1,600บาท เห็นว่าได้เงินตอบแทนจริง และทางแม่ทีมรับปากว่าจะไม่ให้เงินทุนของลูกทีมหาย ต่อมาจึงชักชวนลูกๆ ญาติพี่น้องร่วมลงทุนด้วย และได้นำที่ดินไปจำนอง 3 ไร่ เพื่อเอาเงินไปลงทุน รวมกว่า 2.5 ล้านบาท กระทั่งเมื่อเดือน พ.ค.ปี 62 ทางแม่ทีมบอกว่าเทรดหุ้นไม่ได้ เพราะสกุลเงินดิจิทัลราคาตก หลังจากนั้นก็ทวงถามเงินที่ลงทุนคืน แต่ถูกบ่ายเบี่ยงมาเรื่อยๆ สุดท้ายก็ไม่ได้เงินคืน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.62 แต่คดียังไม่คืบหน้า ขณะที่ผู้ต้องหาก็เข้ามอบตัวและได้ประกันตัวออกไปแล้ว จึงได้มาร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมและเกรงจะไม่ปลอดภัย ซึ่งตอนนี้บ้านก็ถูกยึดไปต้องอาศัยบ้านเช่า ขอให้เร่งรัดคดีโดยเร็วเพราะต้องการจะได้เงินคืน ซึ่งเท่าที่ทราบมีคนในพื้นที่อ.เกาะลันตา ถูกชักชวนให้ลงหุ้นในลักษณะดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 100 ราย แจ้งความไปแล้ว 20 ราย