สพฉ. เผยเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่ มีผู้ขอใช้สิทธิรักษา รพ.เอกชน กว่า 12,000 ราย ไม่เข้าเกณฑ์ 40%
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่” ว่า ตั้งแต่ริเริ่มโครงการวันที่ 1 เม.ย. 2560 เพื่อช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ เวลาที่จะต้องไปรักษาใน รพ.รัฐและเอกชน ในส่วนของ รพ.รัฐอาจไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ในส่วนของ รพ.เอกชน อาจต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้มีจำนวนผู้ป่วยเข้าไปรักษายัง รพ.เอกชน และมีการคีย์ข้อมูลเข้ามาเพื่อขอประเมินว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่แล้ว ประมาณ 12,000 ราย ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ประมาณ 5,700 กว่าราย ที่เหลือไม่เข้าเกณฑ์ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์
“เมื่อมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิ ผมไม่แนะนำให้โทร.ไปที่ 1669 เพื่อไปถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเบอร์นี้ไว้สำรองสำหรับผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินเท่านั้น แต่ถ้าอยากรู้เกี่ยวกับสิทธิที่ว่านี้ แนะนำให้โทร.ไปที่เบอร์ 0-2872-1669 ซึ่งเป็นศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ ที่คอยให้บริการถามตอบให้ความรู้ หรือ รับเรื่องร้องเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง” เรืออากาศเอก นพ.อัจฉริยะ กล่าว
ด้าน น.ส.ปาริฉัตร จันทร์อำไพ ผอ.กลุ่มงานมาตรฐานทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ในส่วนการใช้สิทธิตามโรงพยาบาลเอกชน กรณีผู้ประกันตน ไม่ยอมย้ายไปตามโรงพยาบาลบำบัด หลังพ้นวิกฤติแล้ว หรือ เกินกว่า 72 ชั่วโมง โดยนับรวมวันเสาร์และอาทิตย์ ให้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้ประกันตน ถ้ามีโรงพยาบาลรับรองสิทธิ ก็ให้รับผิดชอบในส่วนของค่าใช้จ่ายไป ส่วนกรณีผู้ป่วยไม่มีรายชื่อหรือไม่มีบัตรผู้ประกันตน รวมไปถึง ผู้ทุพลภาพ เมื่อมารักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็ให้เข้าสู่ระบบหาเตียงของโรงพยาบาลรัฐได้เลย หากต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชน ก็ให้มีการสำรองจ่ายไปก่อน แล้วมาทำเรื่องเบิกกับประกันสังคม