เตือนภัย! ดีเปรสชัน “ซินลากู” ศูนย์กลางอยู่ที่ จ.น่าน

2020-08-03 09:45:34

เตือนภัย! ดีเปรสชัน “ซินลากู” ศูนย์กลางอยู่ที่ จ.น่าน

Advertisement

นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 10 ลงวันที่ 3 ส.ค. เรื่อง พายุระดับ 2 “ดีเปรสชัน ซินลากู” มีใจความสำคัญดังนี้

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (3 ส.ค. 63) พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน ซินลากู) มีศูนย์กลางอยู่ที่ อ.ปัว จ. น่าน ประเทศไทย หรือที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 101.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ (พายุระดับ 1) ในวันนี้ ( 3 ส.ค. 63 )

อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ เข้าสู่พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน ซินลากู) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย




พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้

ภาคเหนือ : แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และตาก



ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และชัยภูมิ

ภาคกลาง : นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออก : ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด



ภาคใต้ : ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดออกจากฝั่ง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563

สำหรับพายุระดับ 3 (โซนร้อน ฮากูปิต) บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีนในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค. 63 ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง