4 แกนนำ แฟลชม็อบเชียงใหม่ไล่รัฐบาลเข้าพบตำรวจเพื่อให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา ขณะที่เพื่อนมาให้กำลังใจนำดอกไม้ และขวดกระทิงแดงมอบให้เพื่อให้รอดพ้นคดี
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 30 ก.ค. ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ 4 นักศึกษาแกนนำแฟลชม็อบ นายธนาธร (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี, นายประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ,นายวัชรภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี และนายวิธญา (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นแกนนำในการชุมนุมที่ลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 19 ก.ค. และวันที่ 29 ก.ค. ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาในฐานความผิด "ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุม ณ ที่ใดในสถานที่แออัดหรือการกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่เรียบร้อยภายในเขตพื้นที่ที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงประกาศกำหนด ตามพระราชกำหนด การบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 18 ประกอบกับ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่1) ข้อ 5 และประกาศเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามการชุมนุมการทำกิจกรรม การมั่วสุม ฉบับลงวันที่ 3 เมษายน 2563"
ในช่วงที่เดินทางมาถึงทางเจ้าหน้าที่ได้มีการนำรั้วเหล็กมากั้น เพื่อป้องกันการเหตุการณ์ความรุนแรง และคัดกรองเรื่องการป้องกันไวรัสโควิด-19 หลังจากที่กลุ่มแกนนำทั้ง 4 คน พร้อมด้วยทนายความคือนายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ผ่านจุดคัดกรองและเข้าไปถึงด้านใน ทางเจ้าหน้าที่ก็ห้ามผู้สื่อข่าวเข้าบันทึกภาพในการสอบปากคำ ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงกลับลงมาจากด้านบนโรงพัก โดยทางเพื่อนและอาจารย์ที่เดินทางมาให้กำลังใจก็ได้นำดอกกุหลาบ และพวงมาลัยขวดเครื่องดื่มชูกำลัง (กระทิงแดง) ให้กับกลุ่มแกนนำทั้ง 4 คน เพื่อให้กำลังใจและเพื่อรอดพ้นจากคดี
ด้าน นายวัชรภัทร หนึ่งในแกนนำ เปิดเผยว่า ได้มาตามหมายเรียกตำรวจ ได้แจ้งข้อหาร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุม ณ ที่ใด อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบ โดยพวกเราปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พวกเราเชื่อว่าการชุมนุมอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยโรคโควิด 19 นั้นไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศมา 60 วันแล้ว จะมีก็แต่แขกวีไอพีของรัฐบาลซึ่งกรณีนี้เป็นการยัดเยียดข้อกล่าวหาให้เรา อีกมิติหนึ่งที่เราอยากให้เอาไปเปรียบเทียบการที่ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มีคนมาต้อนรับไม่น้อยไปกว่าพวกเราเลย ซึ่งเปรียบเทียบแล้วคล้ายกัน ทำไมไม่ดำเนินการทางกฎหมาย
ดังนั้น วันนี้เราก็มารับทราบข้อกล่าวหาและยืนหยัดจะสู้ตามกฎหมาย โดยที่ผ่านมาพวกตนได้ถูกคุกคามมาตลอดทั้งติดตามไปถ่ายรูป ขับรถติดตามไปส่งถึงที่บ้านทำให้พวกเราเยาวชนถึงลุกออกมาต่อสู้