แก๊งโรงเหล็กเปิดใจเล่าต้นสายปลายเหตุโดยแก๊งมหาวงษ์ทำร้าย อ้างเพราะเข้าห้ามนำยาเสพติดเข้ามาขายในพื้นที่ ถึงตอนนี้เสียใจมากที่สุด ฝากถึงวัยรุ่นทุกคน ทำอะไรขอให้คิดถึงพ่อแม่เป็นอันดับแรก
จากกรณีกลุ่มวัยรุ่น "แก๊งโรงเหล็ก" และ "แก๊งมหาวงษ์" ยกพวกตีกันย่าน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งใน 2 รพ. ได้แก่ รพ.วิภารามชัยปราการ และ รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าสมิงพราย เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันที่ 23 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเต๋า ชายเสื้อเทาลายสก็อต กลุ่มโรงเหล็ก เล่าว่า ตนอยู่กับน้องด้วยกัน 5 คน โดยในวันเกิดเหตุตนเองเห็นคนแปลกหน้าที่ตนเองไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนในพื้นที่ โดยทำลับๆล่อๆทำแปลกๆตนเองสงสัย เพราะว่าไม่ใช่คนในพื้นที่และที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลด้วยจึงเดินไปดู โดยตนเองได้ไล่คู่กรณีให้ออกจากพื้นที่ เพราะว่าคู่กรณีได้มาขายยาเสพติดต่อหน้าตนเองและในพื้นที่ของตนเอง โดยที่ตนเองไล่คู่กรณีแล้ว แต่คู่กรณีไม่ยอมไปและทำท่าทางเหมือนไม่พอใจตนเอง จึงได้มีการลงไม้ลงมือนิดหน่อย หลังจากนั้นก็มีคนมาห้ามและได้แยกย้ายกันไป ก่อนที่เวลา 6 โมงเย็น คู่กรณีจะพาพวกมา 8 คน มาที่บ้านตนเอง โดยที่ขณะนั้นพวกตนเองนั่งเล่นกีตาร์อยู่ภายในบ้านหลังจากที่เลิกงานแล้ว โดยที่กลุ่มคู่กรณีได้มาในบ้าน ตนเองเดินออกไปกับน้อง โดยตนเองบอกว่ามีอะไรค่อยๆพูดกัน เพราะพวกพี่มาขายยาเสพติดในพื้นที่ของตนเอง
"พื้นที่นี้มันปลอดยาเสพติด เพื่อนพี่มาขายต่อหน้าผมพวกผมไล่เพื่อนพี่ก็ไม่ไป จากนั้นพวกเขาก็ลุยเข้ามากันทั้ง 8 คนเลย โดยที่ฝั่งตนเองไม่มีอาวุธ ด้วยความกลัวตนเองจึงวิ่งมาโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุและช่วยเหลือ หลังเกิดเหตุตนเองก็ต้องเดินเรื่องเกี่ยวกับน้องที่บาดเจ็บทั้ง 2 คน โดนนายแจ๊ค โดนฟันที่ศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงนำส่งรพ.เมืองสมุทรปู่เจ้า และด้วยความที่ตนเองต้องพาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูที่เกิดเหตุคือที่บ้าน จึงออกจากโรงพยาบาลมาก่อนที่พวกกลุ่มคู่กรณีจะมาถล่ม รพ.เมืองสมุทร ปู่เจ้า แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น"
นายเต๋า เล่าต่อว่า ตนเองใจเสียมากเป็นห่วงพ่อแม่ ทั้ง ๆ ที่ตนเองเป็นคนไล่สิ่งไม่ดีออกจากพื้นที่ ส่วนที่กระแสข่าวว่ามีการทับเส้นกันขายยาเสพติด ตนเองยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตนเองไม่เคยรู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุเลย และยืนยันในเขตพื้นที่ไม่มียาเสพติด โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เป็นพื้นที่ของตนเอง ก็ต้องหวาดระแวงกลัวพวกเขาจะนำยาเสพติดมาซ่อนในพื้นที่พวกผมก็ซวย โดยหลังจากเกิดเหตุตนเองได้หลบไปอยู่ต่างจังหวัด เพราะกลัวว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะตามมาเอาคืนพวกของตนเอง อีกอย่างพวกตนเองไม่รู้เรื่องทางกฎหมาย เหมือนทางกลุ่มคู่กรณี ผมอยากฝากบอกทุกคนว่า ทำอะไรให้นึกถึงหน้าพ่อหน้าแม่ที่ลอยเข้ามาก่อน ให้ใจเย็นๆสักนิดหนึ่งทุกอย่างจะดีเอง มันจะไม่เกิดเรื่องขึ้นถ้าเราใจเย็น ส่วนประเด็นที่บอกว่านายแจ๊คใช้เหล็กขูดชาร์ป แทงนายคิวจนเสียชีวิตนั้น ตนตั้งข้อสังเกตว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่อาจจะถูกอาวุธจากเพื่อนของนายคิวเอง เพราะมั่นใจและยืนยันว่าในฝ่ายของตนรวมถึงนายแจ๊คไม่มีอาวุธใดๆติดมือและไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำและไม่คาดคิดว่าจะถูกยกพวกบุกเข้ามาถึงในบ้าน
ด้าน นายเจ๋ง ชายเสื้อดำน้ำเงิน เล่าว่า พวกเขาเข้ามาประมาณ 8 – 9 คน พี่เต๋าเดินออกไปก่อน ส่วนตนกับแจ็ค ยืนอยู่ข้างกัน โดยกลุ่มคู่กรณีเข้ามาทำร้าย พวกตนเองสู้ไม่ได้ ตนเองเห็นนายแจ๊คโดนรุมตนเองจึงเข้าไปช่วย เหมือนจะหลุดออกมาได้ก็จะวิ่งไปหลังบ้าน แต่กลุ่มคู่กรณีตะโกนบอกว่าถ้าไม่หยุดวิ่งกูยิง ตนเองจึงหยุดวิ่งจึงโดนกลุ่มคู่กรณีจับมาซ้อมบริเวณหน้าบ้าน โดยตนเองโดนไม้เบสบอลและน่าจะเป็นมีดแต่เขาไม่ฟัน จากนั้นเขานำตนเองขึ้นรถจักรยานยนต์โดยพูดว่าเกี่ยวกับน้องเขาด้วย ถ้าน้องเขาเป็นอะไรไปนะก็เป็นอะไรตามน้องเขา แล้วเขาก็ขี่จักรยานยนต์มาถึงบริเวณหน้าบ้านญาติผม ประมาณ 200 – 300 เมตร ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ เป็นจังหวะที่ญาติตนเองเดินออกมาพอดี ก็เลยวิ่งมาเข้ามาช่วย แต่พวกคู่กรณีขู่ไว้ ส่วนที่ตนเองหลุดจากกลุ่มคู่กรณีเนื่องจากตนเองดิ้นทำให้รถจักรยานยนต์ไปชนเสาล้ม ตนเองจึงวิ่งหนีมาได้ หลังจากเกิดเหตุ ตนเองกลัว ระแวงว่าที่บ้านจะเกิดเหตุกลัวพ่อแม่จะเป็นอะไรหรือเปล่า อยากขอโทษแม่ที่ทำให้เรื่องเป็นอย่างนี้ ทำให้แม่เดือดร้อน ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยประวัติของแก๊งมหาวงษ์ พบว่า มีจำนวน 6 คนในผู้ต้องหาเคยต้องโทษทั้งคดียาเสพติดและลักทรัพย์ ประกอบด้วย 1. นายธีรยุทธ หรือปอ อายุ 27 ปี เคยต้องโทษ ร่วมกันในข้อหาครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เพื่อจำหน่ายที่ สภ.บางแก้ว / 2 .นายประทีป หรือโป้ง อายุ 29 ปี เคยต้องโทษเสพยาเสพติดให้โทษ สภ.บางแก้ว วันที่ 14 มิ.ย. 53 และเสพยาเสพติดให้โทษ สภ.สำโรงใต้ วันที่ 15 ม.ค. 53 และ ลักทรัพย์ จยย. สภ.บางแก้ว วันที่ 4 พ.ค. 55 คดีเสพยาเสพ สภ.สาโรงเหนือ วันที่ 26 มิ.ย. 52 / 3. นายภานุวัฒน์ หรือกัก อายุ 28 ปี มือชกแพทย์หญิง เคยต้องโทษ ครอบครองยาเสพติด สภ.สำโรงใต้ วันที่ 8 ธ.ค. 53 และความผิดเกี่ยวกับสารระเหย สภ.สาโรงใต้ วันที่ 27 ก.พ. 52 ครอบครองยาเสพติด สภ.สาโรงใต้ วันที่ 9 มิ.ย. 52 และเสพยาเสพติดให้โทษ สภ.เมืองสมุทรปราการ วันที่ 15 เม.ย. 54 / 4. นายวิโรจน์ หรือจ้า อายุ 22 ปี เคยต้องโทษ มีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 วันที่ 13 ม.ค. 63 / 5. น.ส.สุรางคณา หรือนุก อายุ 20 ปี เคยต้องโทษ มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดประเภท 1 สน.ลาดกระบัง / 6. นายธรรมรัตน์ หรือกอล์ฟ อายุ 21 ปี เคยต้องโทษ มีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 สภ.สำโรงใต้