โรคจาก “ยุง” พาหะนำโรคร้ายตัวจิ๋ว

2020-07-22 11:00:50

โรคจาก “ยุง” พาหะนำโรคร้ายตัวจิ๋ว

Advertisement

โรคจาก “ยุง” พาหะนำโรคร้ายตัวจิ๋ว

“ยุง” เป็นพาหะนำโรคร้ายตัวจิ๋วมาสู่เรา ซึ่งโรคที่มาจากยุงมีอะไรบ้าง

โรคไข้เลือดออก หรือการติดเชื้อไวรัสเดนกี่ (Dengue)

เป็นการติดเชื้อโดยการถูกกัดจากยุงที่มีเชื้ออยู่ในตัว มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งกัดทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน และพบได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน นอกจากนี้สามารถส่งต่อจากมารดาไปยังบุตรได้ บางครั้งพบจากการรับเลือด เข็มตำ หรือปลูกถ่ายอวัยวะ พบได้มากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก มีคนเป็นปีละประมาณครึ่งล้านทั่วโลก และเสียชีวิตกว่าสองหมื่นราย ประชากรที่มีความเสี่ยงกว่า 3,000,000,000,000 คน ดังนั้น จึงเป็นโรคที่มีความสำคัญมาก

อาการ มักมีคลื่นไส้ อาเจียน ผื่น ปวดกระบอกตา กล้ามเนื้อ กระดูก ปกติจะมีอาการประมาณ 2-7 วัน และหายภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากมีอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์โดยด่วน ได้แก่ ปวดท้องมาก คลื่นไส้อาเจียนมากกว่า 3 ครั้งใน 24 ชั่วโมง มีเลือดออกจากปากและจมูก อาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือด ซึมสับสน เหนื่อยเพลีย หรือกระสับกระส่ายไม่รู้สึกตัว

สามารถตรวจได้จากผลเลือด ว่ามีความผิดปกติด้านเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง เกร็ดเลือด หรือ พบเชื้อไวรัสหรือภูมิต่อไวรัสเดนกี่

การรักษา ไม่มียาเฉพาะ รักษาตามอาการ ทานยาลดไข้แก้ปวด เช็ดตัวระบายความร้อน หลีกเลี่ยงการทานยาแอสไพริน หรือยาแก้อักเสบชนิด NSAIDS หากมีโรคประจำตัวหรือทานยาอื่น ๆ ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาก่อนทานยาอื่น ๆ เพิ่มเติม ในขณะนี้มีวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกแล้ว 

โรคไวรัสซิกา (Zika virus)

ถูกค้นพบในป่าชื่อป่าซิกา ในประเทศยูกันดา เกิดจากยุงลาย ซึ่งกัดทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน

อาการ ไข้ มีผื่น ปวดหัว ปวดข้อ ตาแดง ปวดกล้ามเนื้อ อาการอยู่หลายวันถึงระดับสัปดาห์ ส่วนใหญ่เป็นไม่หนักและไม่ค่อยเสียชีวิต แต่บางคนอาจทำให้เกิดภาวะอ่อนแรงที่เรียกว่า Guillain-Barre syndrome ได้

อันตรายสำหรับคนท้องมาก เพราะว่าอาจทำให้เด็กเกิดมามีความผิดปกติได้ โดยเฉพาะในสมอง ทำให้เกิด ภาวะศีรษะเล็ก และสมองผิดปกติชนิดอื่น ๆ รวมทั้งทำให้แท้งได้ด้วย

การวินิจฉัยทำได้โดยการดูประวัติการเดินทาง อาการ และผลเลือดหรือปัสสาวะซึ่งมีเชื้อซิกาได้ อาการไม่แตกต่างกับไข้เลือดออกหรือไข้ปวดข้อจากยุงลายมาก

ส่วนการรักษา ยังไม่มียาจำเพาะ รักษาตามอาการด้วย การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานยา เช่น พาราเซตามอลเพื่อลดไข้ บรรเทาปวด หลีกเลี่ยงการทานยาแอสไพริน หรือยาแก้อักเสบชนิด NSAIDS หากมีโรคประจำตัวหรือทานยาอื่น ๆ ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาก่อนทานยาอื่น ๆ เพิ่มเติม ในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไวรัสซิกา และหากเป็นครั้งหนึ่งแล้ว มักจะมีภูมิคุ้มกันที่สามารถป้องกันไม่ให้กลับเป็นซ้ำได้หลายปี

อ. พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด

สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล