เมลเบิร์นบังคับสวมแมสก์ในที่สาธารณะ

2020-07-20 08:30:05

เมลเบิร์นบังคับสวมแมสก์ในที่สาธารณะ

Advertisement

ทางการรัฐวิคตอเรีย ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย ประกาศมาตรการบังคับประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ในเมืองเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐและเมืองใหญ่สุดอันดับ 2 ของประเทศ หลังจากไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักขึ้นในเขตรัฐ ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อใหม่กว่า 360 คนในวันเดียว แม้จะอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 10 วัน

นายแดเนียล แอนดรูว์ นายกรัฐตรีรัฐวิคตอเรีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์ ว่า ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในเขตรัฐวิคตอเรียอีก 363 คนในระยะ 24 ชั่วโมงจนถึงวันอาทิตย์ กลายเป็นสถิติใหม่รายวันสูงสุด จากสถิติเดิม 217 คนในวันเสาร์ และมีผู้เสียชีวิตอีก 3 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน ทั้งหมดอายุประมาณ 90 ปี

ตัวเลขล่าสุดทำให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมในรัฐวิคตอเรีย เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 3,000 คน เสียชีวิต 38 คน และยังมีผู้ป่วยอยู่ในระบบ 2,837 คน




นายแอนดรูว์ กล่าวว่า นับตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันพุธที่ 22 ก.ค. การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ในที่สาธารณะ จะเป็นการ “บังคับ” ในเมืองเมลเบิร์น จากเดิมที่เพียงแค่ “ขอความร่วมมือ” มาตรการนี้อาจจะขยายไปทั่วทุกเมืองในเขตรัฐ หากสถานการณ์ระบาดไม่ดีขึ้น โดยมาตรการบังคับสวมหน้ากากมีโทษปรับสำหรับผู้ฝ่าฝืน จำนวน 200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 4,430 บาท.