"หญิงหน่อย"จี้รัฐเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบระยอง (คลิป)

2020-07-16 17:35:56

"หญิงหน่อย"จี้รัฐเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบระยอง (คลิป)

Advertisement

"คุณหญิงสุดารัตน์" เดินตลาดกินต้มเลือดหมูระยอง แนะรัฐประกาศไทยเป็นประเทศปลอดเชื้อโควิด-19 พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบระยอง

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายษรกฤต ผลลูกอินทร์ น.ส.นิศามาศ เลาหรัตนาหิรัญ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตลาดสตาร์ไนท์บาร์ซ่า จ.ระยอง เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องชาวระยอง ที่ได้รับผลกระทบ จากกรณีทหาอียิปต์ติดโควิด-9  ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ได้สอบถามถึงปัญหาความทุกข์ยาก โดยเฉพาะยอดการค้าขาย ที่ตกลงกว่าครึ่ง ขณะที่บางร้านตกลงกว่าร้อยละ 70 เพราะลักษณะของเน้นการขายส่ง จึงมีสินค้าจำนวนมากที่ต้องรอกระจายออกไปสู่ผู้ค้ารายย่อย เมื่อได้รับผลกระทบ จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ค้ารายย่อย ชะลอการซื้อสินค้า สินค้าจึงตกค้างเสียหายจำนวนมาก ขณะที่มาตราการเยียวยา ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ไปยังนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีท่าทีการตอบรับอย่างชัดเจน


คุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้รับฟังด้วยว่า เมื่อการค้าขายภายในตลาดเงียบเหงา จึงกระทบไปยังผู้ประกอบการ และภาคส่วนทางธุรกิจอื่นๆ ที่อยู่ในวงจร การค้าการขาย ที่ได้รับผลกระทบตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นภาคการท่องเที่ยว ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงภาคแรงงาน และการเกษตร ขณะที่พ่อค้าแม่ขายฝากยืนยันกับผู้มาใช้บริการ ผ่านคุณหญิงสุดารัตน์ว่า สามารถเดินทางมาเที่ยวระยอง แวะเลือกซื้อสินค้ารวมถึงแวะใช้บริการที่ตลาดได้โดยไม่ต้องกังวลเพราะที่ตลาดแห่งนี้ มีมาตรการในการดูแลรักษาความสะอาดและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิค-19 อย่างเข้มงวด ยืนยันว่าชาวระยองการ์ดไม่ตก อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการใน จ.ระยอง คุณหญิงสุดารัตน์ ได้รับทราบว่า ยอดจองที่พักบริเวณริมหาด หายไปกว่าร้อยละ 80 รวมถึงที่เกาะเสม็ด หายไปเกือบทั้งหมด


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า  สิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะสามารถเป็นเสียงสะท้อนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวระยองได้คือนำปัญหาเหล่านี้ไปพูดคุยในสภาฯเพื่อนำไปสู่การแก้ไข อยากให้รัฐบาลมองข้อเท็จจริง เมื่อถามว่าการเยียวยาจำเป็นหรือไม่ต้องตอบว่าจำเป็น เพราะแม่ค้าได้รับผลกระทบ ของเหลือหนี้ก็เพิ่ม ควรจะช่วยเหลือ ทั้งผู้ประกอบการ คนค้าขายตัวเล็กๆ และประชาชน ที่ต้องหยุดงานอีก ขณะนี้มาตรการของภาครัฐยังสับสน การสื่อสารระหว่างหน่วยงานของภาครัฐยังไม่สอดคล้องกัน เสียงหนึ่งยืนยันว่าระยองปลอดภัย แต่ขณะเดียวกันอีกส่วนหนึ่งเช่นประกาศของ จ.สุรินทร์ หรืออุบลราชธานี ระบุว่าห้ามคนมาเที่ยวระยอง หรือมาแล้วกลับไปจะถูกกักตัว 14 วัน ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ขัดแย้งกันเอง ดังนั้นรัฐจะต้องจัดการให้ชัดเจน ต้องไม่มีหน่วยงานใดที่ออกประกาศมาขัดแย้งกันอีก เพราะนอกจากประชาชนจะกังวลเรื่องของโควิดแล้ว อาจทำให้กังวลว่าเมื่อเดินทางมาแล้วจะเกิดความยุ่งยาก


คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุด้วยว่า ภาครัฐจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะมาตรการไทยเที่ยวไทย ไม่ใช่ออกแพ็คเกจต่างๆแต่ประชาชนยังไม่มั่นใจ เช่นการออกแพ็คเกจให้มาเที่ยวระยอง แต่คนยังไม่มั่นใจก็ทำให้ประชาชนไม่เดินทางมา เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัด หากมีสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกคนก็จะไม่ไปท่องเที่ยว เศรษฐกิจก็ไม่สามารถฟื้นตัวได้ การแก้ไขปัญหาไม่ใช่ด้วยเงินอย่างเดียว แต่ต้องใช้ปัญญา ใช้ความจริงใจ ใช้วิสัยทัศน์ ที่จะทำให้คนมั่นใจว่า พื้นที่ในประเทศไทยทุกพื้นที่ ปลอดภัยปลอดเชื้อ ประเทศไทยไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศมาแล้วกว่า 50 วัน มีเพียงบุคคลที่มาจากต่างประเทศเท่านั้น ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องกล้าประกาศ ว่าประเทศไทยปลอดโควิด-19 และสิ่งที่เป็นข้อบกพร่อง ซึ่งรัฐต้องเร่งป้องกันคือไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางเรือ ทางอากาศ เพื่อไม่ให้เชื้อใหม่เข้าในประเทศ ซึ่งจะเห็นได้จากกรณีการลักลอบเข้ามาของแรงงาน ต้องคุมด้วยมาตรการที่เข้มข้นป้องกันเชื้อใหม่เข้ามา นอกจากนี้ รัฐต้องใช้จุดแข็ง โดยเฉพาะ การที่ประเทศไทยไม่มีผู้ติดเชื้อ ซึ่งแลกมากับความเสียหายทางเศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด