เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดีย แถลงเมื่อวันพุธว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 50 คน และอีกกว่า 2 ล้านคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่หลังฝนตกหนักในช่วงฤดูมรสุม รัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมในหมู่บ้านต่าง ๆ หลายพันแห่ง ทางการต้องตั้งศูนย์บรรเทาทุกข์ขึ้นหลายร้อยแห่งเพื่อเป็นที่พักชั่วคราวให้ผู้อพยพที่ต้องทิ้งบ้านเรือนหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ ในฤดูมรสุม มักเกิดฝนตกหนักเป็นปกติในภูมิภาคแห่งนี้ แต่สำหรับปีนี้ ฤดูมรสุมมา ขณะที่อินเดียกำลังต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 1 ล้านคน และเสียชีวิต 24,309 คน
ส่วนในวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กล่าวว่า พื้นที่กว้างใหญ่ของอุทยานแห่งชาติกาซีรังคา ในรัฐอัสสัม ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ก็จมอยู่ใต้น้ำ และมีสัตว์ป่าอย่างน้อย 51 ตัวตาย เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตมาได้ 170 ตัว นอกจากนี้ ยังมีทั้งเสือและแรดพลัดหลงเข้าไปในหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อหนีน้ำท่วม โดยอุทยาแห่งชาติ กาซีรังคา เป็นที่อยู่ของแรดนอเดียวถึง 2 ใน 3 ที่มีอยู่ทั่วโลก
เจ้าหน้าที่ต้องส่งเรือเกือบ 100 ลำกระจายไปทั่วรัฐอัสสัมในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับตั้งศูนย์บรรเทาทุกข์ 480 แห่งใน 20 อำเภอ เพื่อรองรับผู้ประสบภัยมากกว่า 60,000 คน ถนนและอาคารบ้านเรือนในหลายพื้นที่ของรัฐ จมอยู่ใต้น้ำ
รัฐอัสสัมมักได้รับความเดือดร้อนจากฝนตกหนักเป็นประจำทุกปี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม โดยในช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ.2562 มีประชาชนหลายล้านคนติดค้างอยู่ในพื้นที่ หรือไร้ที่อยู่อาศัย จากน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของอินเดีย, เนปาลและบังกลาเทศ เฉพาะรัฐอัสสัมและพิหาร ของอินเดีย ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 คน
เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือลูกแรดเพศเมีย ที่พลัดหลงกับแม่ของมันเอาไว้ได้ หลังส่วนที่เป็นพื้นดินในอุทยานเกือบทั้งหมดจมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งทำให้สัตว์ป่าต่าง ๆ พยายามดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ขณะที่ แม่น้ำพรหมบุตร หนึ่งในแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งไหลมาจากทิเบตผ่านอินเดีย เข้าบังกลาเทศ โดยระดับน้ำเอ่อล้นฝั่งในรัฐอัสสัมในช่วงสุดสัปดาห์ ส่งผลให้หมู่บ้านมากกว่า 2,000 แห่ง ถูกน้ำท่วม และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 50 คน และได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 2 ล้านคน