"กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน" บุกแจ้งความดำเนินคดี "ช่องส่องผี" บิดเบือนประวัติศาสตร์ เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. จากกรณีรายการช่องส่องผี ซึ่งมี 3 พิธีกร ประกอบด้วย นายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือบ๊วย อาจารย์เรนนี่ สุระประภา คำขจร และเจมส์ ศราวุฒิ วรพัทธ์ทีวีโชติ ที่ไปบันทึกเทปรายการที่วัดศาลาลอย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่บรรจุอัฐิของท้าวสุรนารี หรือย่าโม ที่ชาวนครราชสีมา และคนไทยทั้งประเทศให้ความเคารพนับถือ เพราะเป็นวีรสตรีร่วมกับนางสาวบุญเหลือ ลูกบุญธรรม และหญิงกล้าชาวโคราช กอบกู้เมืองนครราชสีมาจากข้าศึกรุกราน แต่อาจารย์เรนนี่ ซึ่งอ้างว่ามีจิตสัมผัสระบุว่า แม่บุญเหลือ เป็นเมียอีกคนหนึ่งของพระยาปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมา สามีของคุณย่าโม โดนกรกรณีที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวโคราช ถึงกับยื่นคำขาดให้ทีมงานช่องส่องผีต้องยกกองมากราบขอขมาย่าโม และย่าบุญเหลือ
ล่าสุด นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.นครราชสีมา พร้อมทีมทนายความ นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อภิชาต ห่านกระโทก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับนายวรเชษฐ์ วัชรคุณ หรือบ๊วย พร้อมพวก ฐานกระทำความผิดโดยนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยให้ดำเนินคดีในข้อหาหรือความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายศักดิ์ชัย ในฐานะตัวแทนชาวโคราช กล่าวว่า ก่อนนี้นิติกรของจังหวัด พิจารณาฐานความผิดของรายการช่องส่องผี ว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาท แต่เป็นความผิดส่วนบุคคล ต้องให้ทายาทของย่าบุญเหลือ เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี แต่ทายาทย่าบุญเหลือ ในปัจจุบันอยู่ในรุ่น เหลน รุ่นโหลน ไม่สามารถแจ้งความได้ ในฐานะชาวโคราชซึ่งถือเป็นผู้เสียหาย จึงปรึกษาทนายความซึ่งพบว่าสามารถเป็นตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีได้ และถึงแม้ว่า นายวรเชษฐ์ หรือบ๊วย จะออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการถอดรายการออกจากช่องโทรทัศน์ แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะรายการสร้างความเสื่อมเสียทางประวัติศาสตร์ให้กับชาวโคราช จึงขอเรียกร้องให้ทีมงานทุกคนมากราบขอขมาคุณย่าโม และคุณย่าบุญเหลือที่โคราชภายใน 15 วัน หากไม่มา ชาวโคราชก็พร้อมจะออกมายกระดับการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน
นายศักดิ์ชัย ยังเรียกร้องให้ กสทช.พิจารณาความผิดของรายการนี้ เพราะเข้าข่ายมอมเมา หรือหลอกลวงชาวบ้าน กรณีนำเสนอเนื้อหาที่พิสูจน์ไม่ได้แล้วอ้างว่าเป็นเรื่องราวเร้นลับ มองไม่เห็น ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ งมงาย บิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ชาวบ้าน ไม่ใช่แค่ถอดรายการออกจากช่องโทรทัศน์เท่านั้น อยากให้ยุติการเผยแพร่รายการนี้โดยสิ้นเชิง
ขณะที่ นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความ จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เบื้องต้นเนื้อหาในรายการช่องส่องผีที่กล่าวหาคุณย่าบุญเหลือ เป็นเมียน้อยของพระยาปลัดทองคำ ซึ่งเป็นสามีของคุณย่าโม เข้าข่ายลักษณะดูหมิ่น ซึ่งกฎหมายหมิ่นประมาทแยกเป็นหมิ่นประมาทส่วนบุคคล ผู้เสียหายแจ้งความได้เลย และหมิ่นประมาทผู้วายชนม์ ซึ่งความผิดหมิ่นประมาทคนตายไปแล้วจะต้องเป็นทายาทหรือลูกเป็นคนแจ้งความเอาผิด แต่กรณีหมิ่นประมาทย่าบุญเหลือ ทายาทในชั้นลูกก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว จึงไม่มีทายาทไปแจ้งความได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ชาวโคราชยอมไม่ได้ จึงต้องแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผกก.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมเนื้อหาการออกอากาศของรายการช่องส่องผี เอาไว้แล้ว หลังจากนี้จะได้รวบรวมถ้อยคำของผู้เสียหายไว้ประกอบสำนวน และจะเรียกตัวเจ้าของรายการมาสอบปากคำก่อนพิจารณาฐานความผิด เพื่อดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมาย