อดีต ขรก.สุดมึน"สรรพากร"บุกแปะหมายเก็บภาษี

2020-07-09 11:25:23

อดีต ขรก.สุดมึน"สรรพากร"บุกแปะหมายเก็บภาษี

Advertisement

ลูกชายอดีต ขรก.เกษียณอายุ โร่แจ้งความปม "สรรพากร" บุกปิดหมายให้ชำระภาษีบริษัทหน้าห้องพักแม่

เมื่อเวลาวันที่ 9 ก.ค. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นางสมใจ บัวพึ่งน้ำ อายุ 85 ปี อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ อาศัยอยู่ที่แฟลตการเคหะ บางบัว ซ.พหลโยธิน 49/1 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. พร้อมนายสรณคมน์ บัวพึ่งน้ำ ลูกชาย และทนายอำนวยพร มณีวรรณ์ เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.อ.อนุชิต ชาติชูเหลี่ยม รองสารวัตรสอบสวน สน.ทุ่งห้องสอง สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพากร พื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร 9 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ทุ่งสองห้อง 2 นาย มาติดหมายเรียกของสรรพากร เรื่องบริษัทแห่งหนึ่งนำบ้านของนางสมใจ ซึ่งเป็นแฟลตการเคหะ ไปแอบอ้างเป็นที่ตั้งของบริษัท

นายสรณคมน์ ลูกชายผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อช่วงปี 2562 มีหนังสือจากกรมสรรพกร ส่งมาที่บ้านแม่ซึ่งเป็นแฟลตการเคหะ แจ้งว่าให้เสียภาษี และระบุว่าบ้านแม่จดแจ้งเป็นที่ตั้งของบริษัทถึง 2 แห่งโดยเปิดมาแล้วประมาณ 2 ปี จึงติดต่อไปยังบริษัทดังกล่าวตามเบอร์มือถือที่ให้ไว้เพื่อแจ้งว่าบ้านแม่เป็นที่พักอาศัย ส่วนตนทำงานอิสระ แม่เป็นข้าราชการเกษียณอายุหลายสิบปีแล้ว ต่อมาวานนี้ ขระแม่กำลังนั่งสวดมนต์ จู่ๆ มีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเขต 9 และตำรวจสายตรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เข้ามาแปะหมายหน้าบ้าน ทำให้แม่เกือบช็อก ตนจึงติดต่อไปยังทนายคลายทุกข์ ซึ่งแนะนำให้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน และเมื่อตรวจสอบพบว่ามีชื่อผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในหมายดังกล่าว สอบถามไปก็อ้างว่าไม่รู้เรื่อง บอกว่าตนเป็นพนักงานข้าราชการแห่งหนึ่ง จึงคาดว่าอาจเป็นเหยื่อด้วย วันนี้จึงมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ให้ตำรวจดำเนินการตรวจสอบ




ด้าน ทนายอำนวยพร กล่าวว่า การนำชื่อและทะเบียนบ้านคนอื่นไปจดแจ้งเป็นที่ตั้งบริษัท จะต้องได้รับการเซ็นต์หนังสือยินยอม และเขียนแผนที่ จึงเชื่อว่าคดีนี้น่าจะมีการปลอมลายมือชื่อผู้เสียหายไปจดทะเบียนบริษัท จึงเตรียมแจ้งความข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม รวมทั้งแจ้งข้อมูลเท็จต่อพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ตนตั้งข้อสังเกตว่ากรมสรรพากร และกรมพัฒนาธุรกิจ ควรออกมาตรวจสอบบ้านหลังนี้ หรือสถานที่ตั้งก่อนว่าเจ้าบ้านยินยอมจดแจ้งให้กับบริษัทจริงหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ อาจมีชาวต่างชาติหรือทนายความเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ไม่เช่นนั้นอาจมีการปลอมเอกสารจดทะเบียนบริษัทแบบนี้อีก

ขณะที่ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า ปกติแล้วการติดหมายต้องแจ้งตำรวจให้เข้าไปเป็นพยาน โดยเมื่อวานนี้กรมสรรพากร ติดต่อเข้ามาจริง จากนี้จะเรียกเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเขต 9 ที่นำหนังสือไปติดที่บ้านดังกล่าวมาสอบปากคำเพื่อให้ทราบถึงเรื่องราวทั้งหมด โดยเบื้องต้นพบว่า บริษัทดังกล่าวค้างภาษีอยู่ แต่การนำชื่อผู้เสียหายไปแอบอ้างต้องตรวจสอบไปยังกรมพัฒนาธุรกิจว่าบ้านหลังเกิดเหตุเข้าไปเกี่ยวข้องได้อย่างไร หากเป็นการจดแจ้งข้อมูลเท็จ ก็มีความผิดตามกฎหมาย