แจงหน้ากากผลิตเพิ่มเหลือเฟือ ใครไม่สวมอย่าเอาอย่าง

2020-07-08 22:10:16

แจงหน้ากากผลิตเพิ่มเหลือเฟือ   ใครไม่สวมอย่าเอาอย่าง

Advertisement


รายงานโควิด-19 วันที่8 ก.ค.63 มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม2 ราย เป็นผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ที่เข้ากักตัวในสถานที่ที่รับจัดให้ โดยไม่มีผู้ติดเชื้อจากภายในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 44



ผู้ติดเชื้อทั้ง2 รายแรกจากประเทศอินเดีย เป็นชายไทย อายุ31 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงวันที่ 23มิ.ย. ตรวจพบเชื้อวันที่5ก.ค.63 ไม่มีอาการ อีกรายจากประเทศอินโดนีเซีย ชายไทยนักเผยแผ่ศาสนาอายุ39 ปี เดินทางถึงวันที่ 24ก.ค.63 ตรวจพบเชื้อวันที่ 5ก.ค.63 โดยเป็นผู้กลับมาด้วยเที่ยวบินเดียวผู้ติดเชื้อที่พบก่อนหน้านี้อีก 4 ราย 






ขณะที่สถานการณ์โลก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 24 ชม. ถึง 210,873 ราย ยอดสะสม 11,950,044 ราย หลายประเทศ ทำนิว ไฮ หรือตัวเลขที่สูงขึ้น เช่น ประเทศชิลี แซงประเทศสเปน เป็นอันดับที่ 6 ของโลก อิหร่าน ก็ไล่ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 10


ประเทศในอาเซียน ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ของฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ของฟิลิปปินส์สูงสุดในอาเซียนถึง1,540 ราย ทำให้ยอดสะสมขณะนี้อยู่ที่ 47,873 รายแล้ว





การติดเชื้อที่แพร่กระจายเพิ่มมากขึ้น จนระดับผู้นำประเทศ นายชาอีร์ โบลโซนาโร ประธานาธิบดี บราซิล ก็ติดเชื้อ แต่ก็ยังระบุว่าไข้หวัดเล็ก ๆ น้อย และชื่อว่า โควิด-19 จะไม่ส่งผลรุนแรงต่อตัวเขา


ส่วนที่สหรัฐอเมริกา ดินแดนที่ติดอันดับ 1 ของผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้แจ้งการขอถอนประเทศสหรัฐออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก ต่อสหประชาชาติ และสภาคองเกรซ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นกระบวนการถอนตัวอย่างเป็นทางการ ที่จะใช้เวลาราว 1 ปี จึงจะเป็นผล


ส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศไทย ที่ย้ำกันตลอดเวลา ไม่ให้การ์ดตก เคร่งครัดกับการเตือนให้สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย การมีระยะห่าง การล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่แออัด


การใช้หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยที่มีการผลิต จำหน่ายทั่วไปนั้น มีรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยได้รายงานต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า ได้จัดส่งหน้ากากอนามัยในช่วง 31มี.ค.63 ถึงวันที่ 6ก.ค.63 จำนวน 66.9 ล้านชิ้น ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ก็จัดส่งในช่วงเวลาเดียวกันถึง 136 ล้านชิ้น


ทางด้าน นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน แจ้งว่า ขณะนี้การผลิตหน้ากากอนามัยของไทยมีปริมาณเพิ่มขึ้นถึงวันละ 4.2 ล้านชิ้น เพราะมีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยตั้งใหม่อีกหลายราย และขายให้กับรัฐบาล 16 ราย โดยรัฐรับซื้อวันละ 3 ล้านชิ้น จัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุข 1.8 ล้านชิ้น และกระทรวงมหาดไทย 1.2 ล้านชิ้น ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่ามีสต๊อกเก็บไว้ใช้เกิน 1 เดือนแล้ว ส่วนจังหวัดต่างๆ ที่ได้รับจัดสรรจากกระทรวงมหาดไทย ก็มีสต๊อกไว้มาก ทำให้หน่วยงานที่จำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัย ไม่มีปัญหาการขาดแคลน




ในกรณีที่มีหน้ากากอนามัยผลิตได้จำนวนมาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้กรมการค้าภายใน หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมบัญชีกลาง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข หาแนวทางบริหารจัดการให้เหมาะสม โดยรัฐจะรับซื้อหน้ากากอนามัยส่วนเกินไว้ทั้งหมด เพื่อขายต่อให้หน่วยงานที่จำเป็นต้องใช้ในราคาต้นทุน เช่น การบินไทย , สายการบินต่าง ๆ , สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) เพื่อรองรับการคลายล็อก ที่เปิดให้มีการบินภายในประเทศ และเริ่มเปิดรับคนต่างชาติบางกลุ่มเข้ามา


ทั้งนี้คาดว่าเมื่อผลิตได้จำนวนมากขนาดนี้ รัฐน่าจะซื้อได้ในราคาถูกลง จากชิ้นละ 4.28 บาท ในเดือน ก.ค.จะเหลือ3.65 และเดือน ส.ค.จะต่ำลงอีก 



ขณะที่การผลิตหน้ากากอนามัยมีจำนวนมากจนล้นเกินสต็อก จึงไม่เป็นอุปสรรคกับการที่ประชาชนจะจัดหามาใช้ อย่างไรก็ตาม มีการเผยแพร่ภาพงานเลี้ยงฉลองวันชาติสหรัฐอเมริกา และปรากฎภาพนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงสาธารณสุข ไม่สวมหน้ากาก นายอนุทิน กล่าวว่าตอนนั้นการ์ดตก และขอโทษ กับขอประชาชนทั่วไปอย่าการ์ดตกเหมือนกับตน แต่การถอดหน้กากเนื่องจากมีการถ่ายภาพ และเป็นการจัดในบ้านที่จำกัดคนเข้าออก มีการตรวจวัดไข้และไม่มีการรับประทานอาหารร่วมกัน 



สรุปว่า สถานการณ์ในประเทศจะคลี่คลาย แต่คนไทยต้องไม่การ์ดตก สวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวของขาด ตอนนี้ผลิตเองได้เยอะเกินสต็อกอยู่