สปสช.พบคลินิกอีก 63 แห่งทุจริตจ่อเรียกเงินคืน 2.4 ล้าน

2020-07-08 17:55:59

สปสช.พบคลินิกอีก 63 แห่งทุจริตจ่อเรียกเงินคืน 2.4 ล้าน

Advertisement

บอร์ด สปสช.ตั้ง คกก.สอบสวนข้อเท็จจริง 18 คลินิกทุจริตเบิกเงินคัดกรองโรคกองทุนบัตรทอง ขยายผลตรวจสอบคลินิกชุมชนอบอุ่นเพิ่มเติมอีก 86 แห่ง พบข้อมูลไม่ถูกต้อง 63 แห่ง เตรียมเรียกเงินคืนอีกกว่า 2.4 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน โดยที่ประชุมมีวาระพิจารณาการตรวจสอบการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคพื้นฐานคลินิกชุมชนอบอุ่น จากกรณีพบคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่ง ตกแต่งตัวเลขเบิกจ่ายค่าบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในกลุ่มของโรคเมตาบอลิก


นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากที่ได้ตรวจสอบพบข้อมูลการเบิกจ่ายค่าบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในกลุ่มของโรคเมตาบอลิกของคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่ง ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้รับบริการได้รับบริการจริง, ไม่สามารถติดต่อผู้รับบริการจากเบอร์โทรศัพท์ที่บันทึกในเอกสาร และมีการแก้ไขข้อมูลน้ำหนัก ส่วนสูง เพื่อให้เข้าเกณฑ์ตรวจคัดกรอง เป็นต้น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เร่งดำเนินการกับคลินิกชุมชนอบอุ่นทั้ง 18 แห่งจากความเสียหายที่เกิดขึ้นและในวันนี้ บอร์ด สปสช. เห็นชอบตามที่ สปสช.เสนอ โดยให้ สปสช.เรียกเงินส่วนที่หน่วยบริการเรียกเก็บเกินจริง ซึ่งในกรณีที่หน่วยบริการไม่คืนเงิน ให้ สปสช.มีอำนาจระงับค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ พร้อมกันนี้ให้ดำเนินการตามกฎหมายทั้งในคดีแพ่งและอาญา ดำเนินการทางวินัยและสภาวิชาชีพ เพื่อขอให้เพิกถอนความเป็นสถานพยาบาล นอกจากนี้ในวันนี้ บอร์ด สปสช.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นนี้ โดยมี นายจิรวุสฐ์ สุขได้พึ่ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธาน ให้ดำเนินการแล้วเสร็จ 30 วัน


“กรณีนี้เป็นการฉ้อโกงภาษีประชาชน ฉ้อโกงเงินราชการ เป็นการให้บริการแต่ผู้รับบริการไม่มีตัวตน เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ต้องสอบสวนที่มาที่ไป และเรื่องนี้ สปสช.เป็นผู้เสียหายคนแรก ต้องดำเนินการกับคลินิกเหล่านี้ให้ถึงที่สุด โดยขณะนี้ สปสช.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับคลินิกทั้ง 18 แห่ง และได้เพิกถอนการเป็นหน่วยบริการในระบบ สปสช.แล้ว นอกจากนี้ได้ให้ สปสช.เตรียมหาหน่วยบริการแห่งใหม่เพื่อรองรับประชาชนที่ขึ้นทะเบียนในหน่วยบริการดังกล่าว และให้เลขาธิการ สปสช. แถลงรายละเอียดการดำเนินการทั้งหมด เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะต่อไป” นายอนุทิน กล่าว


นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ในการดำเนินงาน กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช.ให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบการใช้งบประมาณมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการที่ได้วางระบบเฝ้าระวัง ติดตามและตรวจสอบ ซึ่งกรณีพบการตกแต่งตัวเลขเบิกจ่ายค่าบริการในคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่งที่ปรากฎเป็นข่าวนี้ ก็เป็นผลจากระบบการตรวจสอบของ สปสช. ที่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีการเบิกจ่ายบริการคัดกรองความเสี่ยงโรคเมตาบอลิกในคลินิกชุมชน 45 แห่งที่ให้บริการสูงสุด เมื่อวันที่ 14-15 ส.ค. 62 โดย สปสช.เขต 13 กทม. พบข้อมูลการเบิกจ่ายของคลินิก 18 แห่ง ไม่น่าเชื่อถือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการดำเนินการกับคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่งแล้ว สปสช.ได้ขยายผลการตรวจสอบคลินิกชุมชนอบอุ่นเพิ่มเติมอีก 86 แห่ง พบข้อมูลไม่ถูกต้อง 63 แห่ง เป็นจำนวนเงินที่ต้องเรียกคืน 2,473,600 บาท และเตรียมตรวจสอบงบส่งเสริมป้องกันที่จ่ายตามรายการบริการทั้งหมดรวมถึงตรวจสอบย้อนหลังในปีงบประมาณที่ผ่านมา