ลิงกังเก็บมะพร้าว เรื่องร้อนที่ไม่เพียงทำให้ชาวสวนมะพร้าวยิ้มไม่ออกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนไทยทั้งประเทศ
เพราะเหตุผลที่พีตา หรือองค์กรเอ็นจีโอด้านพิทักษ์สัตว์อ้างถึงและมีเสียงขานรับจากห้างใหญ่หลายแห่งในอังกฤษ รวมถึงในเนเธอร์แลนด์ และอีกบางประเทศ ถึงขั้นเก็บสินค้าจากเชลฟ์ บอยคอตกะทิและผลิตภัณฑ์จากกะทิของไทย คือใช้ลิงกังเก็บมะพร้าว โดยการบังคับขู่เข็นแบบทารุณกรรมเฆี่ยนตี พร้อมนำคลิปภาพลิงกังเขย่ากรงระหว่างถูกขัง และภาพลิงน้อยกำลังตาเหลือกถลนด้วยความเจ็บปวด นำเสนอผ่านเว็บไซต์ของพีตา
ส่งผลให้ประเทศไทยและคนไทยถูกมองว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ใช้กำลังรุนแรงกับลิง และยังล้าหลังถึงขั้นใช้ลิงเก็บมะพร้าวแทนคน
ทั้งที่ข้อเท็จจริงในปัจจุบัน การใช้ลิงเก็บมะพร้าวแม้อาจจะยังมีอยู่แต่ก็น้อยมาก อาจมีเห็นเป็นการโชว์ในพื้นที่ท่องเที่ยวบางแห่ง หรือในบางพื้นที่ที่มะพร้าวมีลำต้นที่สูงมาก แต่พื้นที่ปลูกมะพร้าวทั่วไปใช้คนเก็บ มีอุปกรณ์คือตะขอติดปลายลำไม้ไผ่ตัดได้ทีละทลาย ขณะเดียวกัน สวนมะพร้าวยุคสมัยนี้ ใช้มะพร้าวพันธุ์เตี้ย ไม่ต้องปีนป่ายให้เสียเวลา
พีตา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐ ก่อตั้งเมื่อปี 2523 โดยอิงกลิด นิวเคิร์ค สาวอังกฤษที่ไปอยู่สหรัฐ และอเล็กซ์ ปาเชโก ชาวอเมริกันที่ต่อมากลายเป็นสามีภรรยากัน พีตาสร้างผลงานชิ้นสำคัญคดีลิงซิลเวอร์สปริงถูกนำไปทดลองที่แมรี่แลนด์ในปี 2524 ก่อนจะเคลื่อนไหวต่อต้านและอ้างปกป้องสัตว์ที่ถูกทารุณกรรมอีกหลายกรณี รวมถึงกรณีผ้าขนสัตว์ด้วย พีตาเคลมตัวเองว่าเป็นองค์กรพิทักษ์สัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพนักงานเกือบ 400 คน มีสมาชิกและผู้สนับสนุนอีก 6.5 ล้านคน ล่าสุด ในปี 2559 ระบุว่า ได้รับการบริจาคเงินมากถึง 65 ล้านเหรียญสหรัฐ
แต่ไม่ทราบเหตุผลกลใด ทำให้นิวเคิร์กกับปาเชโกต้องเลิกราจากกัน ปาเชโกไปตั้งองค์กรด้านสุนัขของตัวเอง ขณะที่นิวเคิร์กและพีตาก็เผชิญกับข้อครหามีส่วนร่วมหรือส่งเสริมสนับสนุนการฆ่าสัตว์ที่เธอเรียกว่าการุณฆาตมากกว่า 2.9 หมื่นตัว หลังเปิดรับสัตว์ที่ถูกทำร้ายสามารถส่งไปรักษาเยียวยาที่พีตา แต่ส่วนหนึ่งกลับต้องรับเคราะห์กรรมดังกล่าว ยังไม่รวมเรื่องการใช้จ่ายและบริหารเงินจากการบริจาค แม้จะอ้างว่าตัวเธอมีรายได้เพียง 3 หมื่นเหรียญหรือกับพนักงานคนอื่นๆ แต่กลับพบว่าเธอมีทรัพย์สินเงินสดที่ไม่ชัดเจนเรื่องที่มาที่ไป
การนำคลิปภาพลิงกังไทยเผยแพร่ในเวบไซต์ของพีตา สะท้อนให้เห็นต้องการสื่อถึงความรุนแรงที่ลิงกังได้รับเพียงด้านเดียว แต่ขาดข้อมูลในอีกด้านอย่างชัดเจนจนดูเหมืองจงใจ ไม่ว่าจะเป็นภาพการเลี้ยงดูกินอยู่ราวกับเป็นสมาชิกในครอบครัว ภาพความน่ารักและรอยยิ้มของลิงเมื่อได้รับรางวัล นอกจากนี้ ยังขาดความรู้ความเข้าใจหรือแสดงออกถึงความพยายามศึกษาในเรื่องวิถีวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งแตกต่างไปจากภาคการค้าอุตสาหกรรมอย่างสิ้่นเชิง
หรือจะมีวาระเคลือบเพื่อให้เรื่องนี้จุดติด ก่อเป็นกระแสวงกว้าง หวังเรียกสปอนเซอร์เพื่อการอุปถัมภ์
ไม่เพียงพีตาเท่านั้นที่ไม่พยายามแสวงหาข้อเท็จจริงในอีกด้านหนึ่ง แคร์รี ไซมอนด์ส คู่หมั้นนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันแห่งอังกฤษ ก็ไม่ใส่ใจศึกษาหาความจริงเช่นกัน ทั้งยังโพสต์ข้อความชื่นชมยินดีที่ห้างค้าปลีกอย่างน้อย 4 แห่ง ประกาศยุติการขายผลิตภัณฑ์มะพร้าว ทั้งยังเรียกร้องให้ผู้จำหน่ายรายอื่นทำตามอีกต่างหาก
จึงความเฮงซวยไม่เข้าท่า ที่ส่งผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อชาวสวนมะพร้าวไทย ผู้ผลิตน้ำกะทิและผลิตภัณฑ์อื่นจากมะพร้าวไทย รวมถึงลิงกังไทยที่จับพลัดจับผลู โดนเข้าไปเต็มๆ
อย่าลืมครับว่า อังกฤษเป็นคู่ค้ารายสำคัญอันดับที่ 21 ของไทย (อันดับ 2 ในอียู รองจากเยอรมนี) มีมูลค่าการค้ากับไทยปี 2562 อยู่ที่ 6,260 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยได้ดุลการค้า 1,426 ล้านเหรียญสหรัฐ
ไม่รู้มันจะหาทางกลั่นแกล้งหรือแก้แค้นเอาคืนหรือเปล่า?
