ซูเปอร์โพลชี้"ก้าวไกล"มาแรง"ปชป.-พปชร."นิยมลดฮวบ

2020-07-05 16:05:39

ซูเปอร์โพลชี้"ก้าวไกล"มาแรง"ปชป.-พปชร."นิยมลดฮวบ

Advertisement

ซูเปอร์โพล ชี้ ปปช.นิยม "พรรคก้าวไกล" เพิ่มขึ้น "พปชร.-ปชป."ลดฮวบ พร้อมเลือกพรรคการเมืองที่ไม่เล่นเกมแบบเก่า

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ถ้าวันนี้เลือกตั้งพรรคใดชนะ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินการเก็บข้อมูลแบบผสมผสาน ทั้งการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การลงพื้นที่และการเก็บข้อมูลในโลกโซเชียลทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1,075 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 3-5 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 47.0 ติดตามข่าวการเมืองบ่อย ถึงบ่อยที่สุด ขณะที่้ร้อยละ 34.9 ระบุว่า ติดตามน้อย และร้อยละ 18.1 ระบุว่า ไม่ได้ติดตามเลย ที่น่าพิจารณา คือ ความเชื่อมั่นของประชาชนภายหลังจากที่พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยคนที่จะให้ดูแลงานด้านเศรษฐกิจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 67.3 ระบุว่า แย่ลงกว่าทีมเดิม ขณะที่ร้อยละ 32.7 ระบุว่า ดีกว่าทีมเดิม ตามลำดับ

เมื่อสอบถามถึงการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับการแก้ปัญหาวิกฤติต่างๆ ของประเทศและประชาชน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 56.9 ระบุว่า สนับสนุน ขณะที่ร้อยละ 43.1 ไม่สนับสนุน ที่น่าสนใจ คือ เมื่อถามถึง ส.ส.ของพรรคการเมืองที่เคยเลือกในการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2562 พบว่า ร้อยละ 18.9 ระบุว่า พรรคเพื่อไทย, ร้อยละ 16.6 ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ, ร้อยละ 15.1 ระบุว่า พรรคอนาคตใหม่, ร้อยละ 11.7 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์, ร้อยละ 7.2 ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย และร้อยละ 2.6 ระบุว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ตามลำดับ




แต่เมื่อถามถึง ส.ส.ของพรรคการเมืองที่จะเลือกถ้าวันนี้มีการเลือกตั้ง พบว่า ประชาชนร้อยละ 16.7 ระบุว่า จะเลือกพรรคก้าวไกล เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากพรรคอนาคตใหม่ชื่อเดิม รองลงมา ร้อยละ 15.7 ระบุว่า พรรคเพื่อไทย ซึ่งลดลงเล็กน้อย ขณะที่ร้อยละ 8.7 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ และร้อยละ 8.3 ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทั้งสองพรรคได้รับความนิยมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ได้ร้อยละ 6.0 อย่างไรก็ตามประชาชนจำนวนมากร้อยละ 41.2 ระบุว่า อื่นๆ เช่น ต้องการเลือกพรรคการเมืองที่ทำการเมืองใหม่ ขณะที่บางส่วนจะเลือกพรรคการเมืองอื่นๆ ตามลำดับ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชี้ให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใดแต่กลับกลายเป็นผลดีเพราะทำให้สามารถเลือกใช้บริการพรรคการเมืองต่างๆ ได้ โดยจะใช้บริการพรรคการเมืองแบบเก่าที่กำลังจะไปไม่รอด หรือพรรคการเมืองที่เป็นการเมืองใหม่ ที่ประชาชนกำลังอยากลอง ถึงแม้ยังไม่เคยทำงานแต่พูดเก่ง มีลีลาโดนใจ ถ้าถึงเวลานั้นนายกรัฐมนตรี ยังเป็นที่นิยมอยู่ คงต้องเปลี่ยนการใช้บริการพรรคการเมืองที่เป็นฐานวิถีชีวิตการเมืองใหม่ (New Normal) ที่ไม่วุ่นวาย ไม่แย่งตำแหน่ง ไม่ทรยศ ไม่เสร็จนาฆ่าโคถึก แต่ตั้งใจทำงานจริง ตอบโจทย์ตรงเป้าความต้องการของประชาชนได้แท้จริง ซึ่งคงไม่ใช่พรรคการเมืองกลุ่มเดิมแล้ว และตอนนั้น 3 ป.จะเหลือใครบ้างน่าติดตามจริง